แต่ทางห้างฯได้ปฏิเสธจ่ายรางวัล อ้างผู้ถูกรางวัลแท้จริงเป็นโรงเรียนต้นสังกัด ทำให้ทางอาจารย์ตัดสินใจหอบหลักฐานต่าง ๆ ไปร้องขอความช่วยเหลือจากทางสคบ. พร้อมไปยื่นฟ้องศาลแพ่ง ตอนแรกศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่พอยื่นอุทธรณ์ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษากลับให้จำเลยใช้ค่าสินไหม 1 ล้านบาทแก่โจทก์ ด้านคุณครูวอนอย่าฎีกาอีกเลย เผยเสียเงินไปกว่าแสนบาทยื่นฟ้องเพื่อความถูกต้อง
ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีที่ นายสุวัตร หรือ วัสสธนพล เพียรพิจารณ์ อายุ 52 ปี อาจารย์ รร.วัดหนองอ้อ จ.ราชบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ผู้ดำเนินกิจการห้างแม็คโคร เป็นจำเลยที่ 1 และรร.วัดสร้อยฟ้า เป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งคัดค้านการให้รับรางวัล ชิงโชคของห้างแม็คโครแก่โจทก์ เป็นจำเลยที่ 1-2 เรื่องละเมิดผิดสัญญา เรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีสืบเนื่องจากจำเลยปฏิเสธการจ่ายรางวัลบัตรกำนัลมูลค่า 1 ล้านบาทให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกค้าห้างที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในการส่งคูปองชิงโชคงานฉลองครบรอบ 13 ปีห้าง แม็คโคร
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว มีคำพิพากษากลับให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าสินไหมเป็นบัตรกำนัลใช้แทนเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทแก่โจทก์ แต่ไม่ต้องให้จำเลยชำระค่าดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีอีกเนื่องจากบัตรกำนัลไม่ใช่เงินสด ส่วนจำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง
ภายหลังคำตัดสินนายสุวัตร เปิดเผยว่า คดีนี้ตนยื่นฟ้องเมื่อปี 2545 ก่อนหน้านี้ได้ สมัครเป็นสมาชิกบัตรแม็คโคร สาขา จ.นครปฐม ตั้งแต่ปี 2543 ตามที่ห้างได้เชิญชวนให้ข้าราชการครูในโรงเรียนต่าง ๆ เป็นสมาชิก
ซึ่งขณะนั้นตนยังเป็นครูสังกัดอยู่ที่ รร.วัดสร้อยฟ้า และเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 45 ตนได้รับแผ่นปลิวโฆษณาว่า ครบรอบห้าง 13 ปี 21 สาขา (เฉพาะสมาชิกบัตร) เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท รับคูปอง 1 ใบ ชิงรางวัลที่ 1 บัตรกำนัลมูลค่า 1 ล้านบาท รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท และรางวัลอื่นอีก 210 รางวัล ซึ่งตนซื้อสินค้าและได้คูปองชิงโชค 9 ใบ จึงกรอกชื่อ-นามสกุล หมายเลขสมาชิก ที่อยู่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้เรียบร้อยตามขั้นตอน
ต่อมาห้างได้จับรางวัลปรากฏว่า ตนได้รับรางวัลที่ 1 และห้างทั้ง 21 สาขาประกาศชื่อตนว่าเป็นผู้ได้รับรางวัล แต่เมื่อจะไปรับรางวัลห้างกลับปฏิเสธไม่ยอมจ่ายรางวัล อ้างว่าสำนักงานใหญ่สั่งระงับการจ่าย ระบุตนไม่ใช่ผู้ถูกรางวัล แต่ผู้ที่ได้รับรางวัลคือ รร.วัดสร้อยฟ้าซึ่งเป็นต้นสังกัดเก่าของตน โดยทาง รร.วัดสร้อยฟ้า ได้มาคัดค้านการรับรางวัลด้วย ทำให้ตนจึงไป ร้องเรียนต่อ สคบ. โดยนายอนุวัตน์ ธรมธัช เลขาฯ สคบ.ในขณะนั้น ตัดสินว่าตนเป็นผู้มีสิทธิรับรางวัลและได้แจ้งให้ห้างทราบ แต่ห้างก็ยังไม่จ่ายรางวัลอีกจึงต้องนำคดีมาฟ้องศาล
“ผมเป็นผู้มีสิทธิได้รางวัล สินค้าที่ซื้อจากห้างก็เป็นของใช้ส่วนตัว ขณะที่ใบเสร็จก็ออกในชื่อและหมายเลขบัตรของผม ที่เป็นผู้ถือบัตรสมาชิกของห้างมีลายเซ็นพร้อม นอกจากนี้การประกาศรางวัลก็แสดงชื่อผมชัดเจน ผมต้องเสียเวลาเสียเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีเป็นหลักแสนเพื่อแลกกับความถูกต้องจึงขอร้องทางห้างโปรดเมตตาอย่าฎีกาคำพิพากษาเลย” นาย สุวัตร กล่าวทิ้งท้าย.