เทศกาลตรุษจีนปีนี้ยังคึกคักพอสมควร แม้ว่าเศรษฐกิจจะยอบแยบก็ตาม
โดยชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากยังคงออกมาจับจ่ายหาซื้อข้าวของไปกราบไหว้บรรพบุรุษ แต่เน้นซื้อเท่าที่จำเป็นและไม่ฟุ่มเฟือย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2551 ที่สำรวจจากทั่วประเทศว่า คาดจะมีการใช้จ่ายทั่วประเทศ 33,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 5.74% แต่เนื่องจากปีนี้ราคาสินค้าสูงขึ้น ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่มาก
แม้ตรุษจีนปีนี้จะคึกคักเล็กน้อย แต่ยังมีสัญญาณจากประชาชนเกี่ยวกับความมั่นใจในด้านเศรษฐกิจดีขึ้น
เห็นได้จากแหล่งเงินที่นำมาใช้จ่าย มาจากรายได้ปกติเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นเงินออม ต่างจากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่พบว่า ประชาชนยังไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจไทย ทำให้มีการนำเงินออมมาใช้มากสุด ถือว่าประชาชนมีสัญญาณของความเชื่อมั่นดีขึ้นมาบ้าง เพราะเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ภายในไตรมาส 2-3 ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นกลับมาภายใน 3-6 เดือนนี้
สำหรับงานเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาเร่งทำคือ การฟื้นความเชื่อมั่น การดูแลภาระค่าครองชีพผู้บริโภค และราคาพลังงานไม่ให้สูงเร็วเกินไป
ทั้งค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม และน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนแรก ที่รัฐบาลกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจพลิกฟื้นจึงค่อยปรับราคาพลังงานขึ้นมา โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลควรเพิ่มงบประมาณกลางปีอีก 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตในระดับ 5% แม้จะเป็นการเพิ่มงบประมาณขาดดุล แต่ก็ยังไม่น่าห่วง เพราะไม่เกิน 2.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
ด้านนางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า
พฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ พบว่า ประชาชนจะใช้จ่ายเพื่อซื้อของไหว้เจ้ามากสุด รองลงมาเป็นจ่ายแต๊ะเอีย ทำบุญ และท่องเที่ยว ส่วนการซื้อของเซ่นไหว้นั้น พบว่าไข้หวัดนกไม่มีผลทำให้การซื้อไก่ไหว้เจ้าลดลง ขณะที่ผลกระทบจากทองคำปรับราคาสูงขึ้นนั้น ทำให้คนไม่ซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญให้ตนเองมากถึง 85.5% และไม่ซื้อเป็นของขวัญให้ผู้อื่นถึง 93.4%
ส่วนเมื่อถามถึงทรรศนะเกี่ยวกับราคาสินค้าในช่วงตรุษจีนปีนี้กับปีก่อน พบว่า
คนส่วนใหญ่ตอบราคาสินค้าแพงขึ้นมาก 61.9% ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 39.9% ส่วนสิ่งที่เป็นห่วงในช่วงเทศกาลตรุษจีนมากสุดคือ ราคาสินค้าแพงขึ้น รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวแพงขึ้น อุบัติเหตุบนท้องถนน และเมื่อถามถึงทรรศนะเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยหลังได้รัฐบาลใหม่ พบว่า คนส่วนใหญ่เห็นเศรษฐกิจไทยดีขึ้น 73.3% โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นภายในไตรมาส 2 นี้ ส่วนปัญหาที่คาดหวังให้รัฐบาลใหม่แก้คือ ฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค รองลงมาคือ ราคาน้ำมัน และค่าครองชีพ
ทางด้านสวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,247 ราย พบประเด็นภาพรวมของตรุษจีนปีนี้ว่ามีภาวะข้าวของแพงกว่าทุกปีที่ผ่านมาถึง 73.1%
ทำให้กระทบต่อการเซ่นไหว้ โดยลดจำนวนเครื่องเซ่นไหว้ หรือเลือกเฉพาะสิ่งที่มีความจำเป็น ลงถึง 47.15% และเนื่องจากรายได้น้อยลง ทำให้การซื้อของเซ่นไหว้ต้อง จำกัดรายจ่ายลงถึง 19.51% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก 7.35% เช่น โรคไข้หวัดนกระบาด ทำให้ต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อของ โดยเฉพาะไก่ เป็ด อย่างไรก็ตามการสำรวจพบว่าชาวจีนส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญต่อประเพณีเซ่นไหว้ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นมงคลในการประกอบอาชีพ และดำเนินชีวิต แต่ต้องยึดหลักพอเพียง โดยให้มีความสมดุลในการจับจ่ายซื้อข้าวของ เพื่อให้ สัมพันธ์กับรายได้ปีนี้