ไฟฟ้า-น้ำมัน-แก๊สแห่ขึ้นราคา

ไฟฟ้า-น้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม จ่อพาเหรดดาหน้าขึ้นราคา รับรัฐบาลชุดใหม่ คนไทยกระอักเลือด ล่าสุดร้านขายปลีก เตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หลังวันที่ 15 ก.พ. อีก กก.ละ 15-30 สตางค์ ส่วนผู้ค้าน้ำมันประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีก น้ำมัน   เบนซิน 95 เป็น 32.79 บาท และน้ำมันแก๊ส    โซฮอล์ เป็น 26.79 บาท โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 30 ม.ค.
 
ที่สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 ม.ค. นาย วีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า

บริษัทผู้ค้าน้ำมันในประเทศได้ประกาศปรับขึ้น ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (อี10) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ (อี20)  และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30 สต. ส่วนน้ำมันเบนซิน 91 ปรับขึ้น 50 สต. น้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น 20 สต. และน้ำมันดีเซล บี5 ปรับเพิ่มขึ้นอีก 40 สต. โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 30 ม.ค.นี้ การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันครั้งนี้  ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเป็นดังนี้ เบนซิน 95 เป็น 32.79 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 (อี10) เป็น 28.79 บาท แก๊สโซฮอล์ (อี20) เป็น 26.79 บาท เบนซิน 91 เป็น 31.69 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 เป็น 27.99 บาท ดีเซลเป็น 29.14 บาท และดีเซล บี 5 เป็น 28.34  บาท
  
สาเหตุที่ปรับราคาน้ำมันเบนซิน 91 สูงกว่าน้ำมันชนิดอื่น เพราะมีค่าการตลาดที่ต่ำมากอยู่ในระดับ 0.66 บาทต่อลิตร  หลังจากการปรับขึ้นราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซิน 91 ในครั้งนี้ ส่งผลให้ส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ลิตรละ 3.70 บาท นอกจากนี้ สนพ.ยังได้ปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลลงอีกลิตรละ 20 สต. เหลือเพียง 10 สต. และชดเชยให้กับน้ำมัน ไบโอดีเซล 65 สต. เพื่อลดผลกระทบจากการยกเลิกการชดเชยไบโอดีเซล (บี100) ที่ต้องนำมาผสมในน้ำมัน ดีเซล และเพื่อทำให้ราคาน้ำมันดีเซลกับไบโอดีเซล (บี5) มีส่วนต่างราคากัน อยู่ที่ 80 สตางค์ ต่อลิตร เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น            
 
นายวีระพล กล่าวต่อว่า

สนพ. ได้พิจารณาปรับราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น กก.ละ 20 สต. เนื่องมาจากราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซหุงต้ม ที่มาจากโรงแยกก๊าซ ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปประมาณ 3% โดยจากการคำนวณโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มในเดือน ก.พ. 51 ซึ่งพบว่าจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้น และแม้จะมีเรื่องของอัตราค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ก็ช่วยได้เพียงเล็กน้อย 
 
ทั้งนี้ จากราคาขายส่งที่ปรับสูงขึ้นนี้  ผู้ค้าก๊าซหุงต้ม อาจจะพิจารณาปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ราคาขายปลีก ภาครัฐไม่ได้ควบคุมราคาไว้แล้ว โดยหากผู้ค้าก๊าซหุงต้ม จะปรับราคาขายปลีกขึ้น ก็คาดว่าจะส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 18.20 บาท จากเดิมราคาก๊าซหุงต้มอยู่ที่ระดับ 18.01 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.87 บาทต่อถังขนาด 15 กก. โดยจะมีผลวันที่ 30 ม.ค. 51 นี้.
  

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายก สมาคมก๊าซปิโตรเลียม กล่าวว่า

ร้านขายปลีกก๊าซหุงต้ม จะปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มหลังวันที่  15 ก.พ.  เนื่องจากโรงบรรจุก๊าซ ทำหนังสือแจ้งมายังร้านขายปลีกว่า จะปรับขึ้น กก.ละ 15-30 สตางค์ ในวันที่ 1 ก.พ. นี้ ตามราคาเพดานที่เคยแจ้งไว้กรมการค้าภายใน ส่งผลให้ก๊าซหุงต้ม ขนาดถัง 15 กก. ราคาขายส่งปรับขึ้นถังละ 3 บาท จาก 241 บาท เป็น 244 บาท ทำให้ราคาขายปลีกปรับขึ้นจากถังละ 280-285 บาท เป็นถังละ 283-288 บาท ส่วนขนาดถัง 48 กก. ปรับขึ้นถังละ 10 บาท ราคาขายส่ง จากถังละ 780 บาท เป็น 790 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกจากถังละ 820 บาท เป็น 830 บาท ส่วนขนาดถัง 4 กก. จะไม่ปรับราคา เนื่องจากยอดขายต่ำ ยังจำหน่ายราคาถังละ 100-110 บาท  
 
ด้าน นายณอคุณ สิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะอนุ กรรมการพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟที กล่าวว่า

คณะอนุกรรมการฯ จะประชุมพิจารณาปรับราคาค่าไฟฟ้าในวันที่ 13 ก.พ.นี้ โดยค่า ไฟฟ้างวดใหม่คาดว่าจะปรับขึ้น แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะขึ้นไปที่อัตราเท่าใด เนื่องจาก ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ส่งผลต่อราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น.