กลุ่มพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค “พับลิก ซิติเซน” ซึ่งก่อตั้งโดยนายราล์ฟ เนเดอร์
อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องไปยังองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เรียกร้องให้ออกคำเตือนอย่างเข้มงวดและจริงจังเกี่ยวกับอันตรายของการฉีดสาร “โบทูบินัม ท็อกซิน” หรือรู้จักในชื่อ “โบท็อกซ์” เพื่อลบรอยเหี่ยวย่น บนใบหน้า หลังพบข้อมูลการใช้โบท็อกซ์ในธุรกิจเสริมความงามโดยส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาต ขณะเดียวกัน บางกรณียังเกิดปัญหาโบท็อกซ์แพร่ไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เกิดผลเสียร้ายแรงตามมา อาทิ กล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจเป็นอัมพาต กลืนลำบากทำให้อาหารหรือของเหลวเข้าท่อทางเดินหายใจหรือปอด พับลิก ซิติเซนระบุช่วงเดือน พ.ย. 2540-ธ.ค. 2549 มีผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดโบท็อกซ์ 658 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 16 ราย
อย่างไรก็ตาม
บริษัทอัลเลอร์เจน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสารโบท็อกซ์ รวมถึงสมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกา ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่มองว่าไม่มีความจำเป็นที่เอฟดีเอจะต้องเพิ่มคำเตือนแต่อย่างใด เพราะไม่มีข้อมูลสนับสนุนคำกล่าวอ้างของพับลิก ซิติเซน แต่อาจระบุในฉลากข้างขวดว่า “เป็นสารที่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เฉพาะทางเท่านั้น” โบท็อกซ์เป็นสารพิษที่หากใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อยจะทำให้กล้ามเนื้อไร้ความรู้สึก และลบรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนังได้นาน 4-6 เดือน มีผู้ใช้โบท็อกซ์ จำนวนหลายล้านคนทั่วโลก สารที่ว่าจำหน่ายในชื่อต่างๆ อาทิ Vistabel, Myobloc หรือ Neurobloc และ Dysport