จากกรณี นางผ่องศรี วรนุช นักร้องลูกทุ่งชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ ถูกนางประกาย เหลียง หรือกาย สาลิกา นักร้องลูกทุ่งดาวรุ่งหน้าใหม่ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.มนตรี จ่าน้ำเที่ยง ร้อยเวร สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 50 ว่าถูกนางผ่องศรีกับพวก กักขังหน่วงเหนี่ยว และขู่บังคับให้เซ็นสัญญาเข้าเป็นนักร้องในสังกัด ซึ่งต่อจากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำหมายศาลจังหวัดนครปฐมเข้าจับกุมนางผ่องศรีที่บ้านพักเมื่อเช้าวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ก่อนที่นางผ่องศรี จะยื่นประกันตัวออกไปสู้คดีนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ม.ค.
นางผ่องศรี วรนุช ได้เข้าพบ พ.ต.ท.อนันต์ วุฒาพานิช พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อขอให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยขณะที่นางผ่องศรีกำลังให้การอยู่ที่ห้องพนักงานสอบสวน ชั้น 2 นั้น นายทรงธรรม สถาผล ผู้จัดการส่วนตัวของนางประกาย เหลียง ได้เดินทางมาพร้อมกับ นางประกาย เหลียง คู่กรณี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหาข้อยุติหรือยอมความกันในเรื่องที่เกิดขึ้น
ในระหว่างพูดคุยกันได้ประมาณ 15 นาที นางผ่องศรีเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดและร่ำไห้ออกมา
โดยบอกกับทุกคนว่า หากกายยอมรับผิดและขอขมากับเรื่องที่ทำให้แม่ต้องเสียชื่อเสียง แม่ก็พร้อมจะยกโทษให้ แต่หากแม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ต้องรอให้ใครมาจับ แม่จะเดินเข้าห้องขังด้วยความสง่าผ่าเผย หลังจากนั้นกาย สาลิกา ก็ลั่นวาจาออกมาเสียงดังว่า หากสิ่งที่ทำไปนั้นไม่ถูกต้อง ก็คงหาความยุติธรรมที่ไหนไม่ได้อีก และไม่รู้จะไปพึ่งใคร พร้อมกับลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะเจรจาทันที จนนายทรงธรรม ผู้จัดการส่วนตัว ต้องลุกขึ้นตามออกไปพร้อมบอกให้ระงับสติอารมณ์
ขณะที่นางผ่องศรีเมื่อเห็นอาการที่กายแสดงออก ถึงกับร่ำไห้เสียงดังลั่นและอาเจียนออกมา
ท่ามกลางความตกใจของทุกคน จน แฟนเพลงที่มาให้กำลังใจนับสิบคน ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น ก่อนจะพาขึ้นรถกลับบ้านพัก ซึ่งแฟนเพลงผู้ใกล้ชิดกับผ่องศรีบอกว่า แม่ผ่องป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่ ทุกคนก็เป็นห่วงกลัวว่าจะช็อก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องเสียใจ และร้องไห้ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้