ตามรายงานจากปากของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นั้น หญิงสาวคนดังกล่าว ไม่มีเงินติดตัวเลยและถูกบังคับให้ต้องขายตัวเองที่ร้านขายของชำแห่งนั้น อีกกระแสหนึ่งบอกว่า เธอถูกชายชาวมาเลย์วัน 40 เศษๆ ซึ่งมีอาชีพค้าขาย นำตัวไปที่นั่น จากนั้นก็ได้ให้เธอไปรออยู่ในร้านน้ำชาที่อยู่ใกล้เคียง และ ในที่สุดชายรูปร่างอ้วนอายุ 60 ปีเศษ ผู้เคาะราคาสุดท้ายในการประมูล ก็ได้ไปนำเอาตัวเธอไป
หนังสือพิมพ์ในมาเลเซียต่างพาดหัวข่าวนี้ด้วยอารมณ์แค้นเคือง เป็นเหตุให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องออกแถลงแสดงท่าทีต่อสาธารณชน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการภายในของมาเลเซียกล่าวว่าการขายหญิงสาวชาวเวียดนามนั้นเป็นการหลบเลี่ยงความผิดรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจจะมีเหล่าอาชญากรทั้งในมาเลเซียและในเวียดนามอยู่เบื้องหลัง
รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวอีกว่า ถ้าหากหญิงสาวคนดังกล่าวมีปัญหาเกี่ยวกับการเงินจริงๆ เธอก็ควรจะไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตเวียดนาม มากกว่าจะไปขายตัวเอง
ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นั้น เจ้าของร้านชำได้ติดประกาศประมูลหญิงสาวเมื่อเวลา 7 นาฬิกา และ เธอถูก "ขาย" ไปเมื่อเวลา 11 นาฬิกาวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียกำลังสืบสวนหาร่องรอยเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และถ้าหากพบว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นจริงทั้งเจ้าของร้านชำและหญิงสาวชาวเวียดนามอาจจะต้องโทษจำคุกถึง 2 ปี ปรับอีก 60,000 ริงกิต
สถานทูตเวียดนามในมาเลเซียได้เรียกร้องให้ทางการมาเลเซียช่วยหาข้อเท็จจริงว่า การประมูลซื้อขายคนดังกล่าวมีการใช้ภาษาเวียดนามหรือไม่ พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้มาเลเซียได้ช่วยติดตามหาหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวนี้ด้วย
ในวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์กวงหมิง (Guang Ming) ภาษาจีนในมาเลเซียได้รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงภายในของมาเลเซีย นายตันไชโฮ (Tan Chai Ho) ที่ระบุว่า การติดตามหาตัวหญิงสาวชาวเวียดนามที่ตกเป็นกรณีอื้อฉาวคงจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเธอไม่มีเอกสารใดๆ ที่จะระบุตัวตนได้
การค้าขายหญิงสาวจากเวียดนามนั้นกระทำกันมานานแล้วในรูปแบบของการจับคู่ ซึ่งเป็นบริการธุรกิจที่ผู้ให้บริการเรียกค่านายหน้าจากลูกค้า มีการโฆษณาเรื่องนี้อย่างแพร่หลายบนเว็บไซต์ ในมาเลเซียเองก็มีอยู่หลายเว็บที่มีการประกาศซื้อขายหญิงเวียดนาม เช่น VietnamCupid.com เป็นต้น
ตามสถิติที่ไม่เป็นทางการ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้มีหญิงสาวชาวเวียดนามนับแสนคน แต่งงานกับชาวต่างชาติโดยผ่านบริการจัดหาของคนกลาง จำนวนของ "เจ้าสาว" ชาวเวียดนาม มีจำนวนอย่างมากมายในบางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ เกาหลี ไต้หวัน มาเลเซียและสิงคโปร์
ทางการเวียดนามเองไม่มีสถิติเกี่ยวกับหญิงชาวเวียดนามไปเดินทางออกนอกประเทศไปแต่งงานกับชาวต่างชาติ แต่เจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีประจำเวียดนามผู้หนึ่งบอกกับหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟงในวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า "เจ้าสาว" ชาวเวียดนามในเกาหลีนั้น มีจำนวนระหว่าง 15,000-20,000 คน
ส่วนในไต้หวัน สถิติของสำนักงานผู้แทนเศรษฐกิจวัฒนธรรมไทเปในกรุงฮานอย ระบุว่าที่ผ่านมามีหญิงสาวจากเวียดนามไปแต่งงานกับคนไต้หวันแล้วประมาณ 100,000 คน
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีข่าวคราวอื้อฉาวอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับหญิงสาวชาวเวียดนามไปตกระกำลำบากในต่างแดน เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของ "สามีออนไลน์" ทั้งหลาย หลายคนถูกทุบตี ถูกกระทำทารุณต่างๆ รวมทั้งถูกบังคับให้ทำงานหนักเยี่ยงทาสในครอบครัวของสามี
เมื่อต้นปีนี้ตำรวจเวียดนามได้ทลายขบวนการค้ามนุษย์แก๊งใหญ่ที่มีหญิงชาวเวียดนามกับสามีชาวมาเลย์เป็นหัวหน้า ตำรวจสามารถช่วยเหลือหญิงสาวหญิงสาวได้กว่า 100 คน ขณะเตรียมจะถูกส่งไปยังมาเลเซีย เพื่อขายบริการทางเพศ
หญิงสาวชาวเวียดนามยินยอมเดินทางไปแต่งงานกับชาวต่างชาติ ตามที่ถูกบริษัทจัดหาชักชวน โดยหวังที่จะมีชีวิตที่ดีกว่าในต่างแดน แต่หญิงสาวจำนวนมากก็มักจะไปลงเอยด้วยการถูกบังคับให้ขายบริการ
หญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อหลายรายได้ให้การเกี่ยวกับความเลวร้ายในซ่องโสเภณีกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ หลังจากพวกเธอสามารถ ไถ่ ตัวเองให้รอดพ้นออกมาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามได้ใช้เรื่องราวเหล่านี้เป็นข้อมูลในการออกรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์.