บังคับใช้ 11 กุมภาพันธ์ 2551 สธ.ออกประกาศเขตห้ามสูบบุหรี่ ทั้งผับ บาร์ ร้านอาหาร ตลาดทุกประเภท เปิดท้ายขายของ รวมทั้งสวนจตุจักร ทั้งติดแอร์และไม่ติดแอร์ ฝ่าฝืนทั้งคนสูบ เจ้าของสถานที่ มีโทษปรับ 2,000-20,000 บาท ชี้เจตนารมณ์กฎหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพคน 53 ล้านคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ แต่ต้องสูดควันบุหรี่มือสองที่มีควันพิษอันตรายจากบุหรี่ที่จุดสูบวันละกว่า 110 ล้านมวน
ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุม “การบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 18 พ.ศ. 2550 ในการขยายพื้นที่เขตปลอดบุหรี่ ซึ่งจะมีผลใช้ในอีก 18 วัน ” ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศฉบับที่ 18 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เพิ่มพื้นที่คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535
โดยกำหนดให้สถานบันเทิงประเภทผับ บาร์ ร้านอาหาร ตลาดทุกประเภท
ทั้งตลาดสด ตลาดขายเสื้อผ้า รวมถึงตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดเปิดท้ายขายของต่างๆ ด้วย บังคับทั้งที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์ จะมีผลบังคับใช้แน่นอนในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้ จะมีโทษปรับตามกฎหมาย โดยเจ้าของ ผู้ดูแลสถานที่ มีโทษปรับ 20,000 บาท ส่วนประชาชนที่สูบในเขตห้าม จะมีโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
“กฎหมายฉบับนี้ได้เพิ่มสถานที่ปลอดบุหรี่ให้มากขึ้น ได้แก่ ผับ บาร์ ตลาดสด ร้านอาหาร ซึ่งในผับบาร์ ร้านอาหารที่ติดแอร์ จะต้องเป็นเขตปลอดควันบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สามารถจัดสถานที่สูบภายนอกที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกได้ ส่วนตลาดสด ร้านอาหารที่ไม่ติดแอร์ ก็สามารถจัดมุมให้สูบบุหรี่ไว้ต่างหาก แต่ต้อง ให้ห่างไกลผู้คน ไม่ส่งกลิ่นรบกวน” นพ.มงคล กล่าว
นพ.มงคล กล่าวว่า
เจตนารมณ์กฎหมายไม่ได้บังคับคนสูบบุหรี่ให้เลิกสูบ และไม่ต้องการสร้างผลกระทบผู้ประกอบการ แต่เพื่อคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่เป็นหลัก ซึ่งมีประมาณ 53 ล้านคน โดยเฉพาะในผับ บาร์ ที่มีมากกว่า 6,000 แห่ง ที่ประชาชนนิยมเข้าไปใช้บริการ ทั้ง วัยรุ่น นักเที่ยวกลางคืน รวมทั้งผู้ที่ทำงานในร้านเช่น พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ ดีเจ นักร้อง นักดนตรี รวมแล้วมีคืนละกว่า 600,000 คน โดยมีคนสูบบุหรี่ทั่วประเทศวันละกว่า 110 ล้านมวน ผู้ที่สูดดมควันบุหรี่เข้าไปในร่างกาย เป็นเวลานานต่อเนื่องทุกวัน เสี่ยงเกิดโรคร้ายแรงในระบบทางเดินหายใจ เพราะมีสารอันตรายเคมีที่เกิดจากควันบุหรี่ 4000 ชนิด เป็นสารก่อมะเร็ง 43 ชนิด
ทั้งนี้ในระหว่างที่รอการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข จะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบ
และจะส่งเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค ออกชี้แจงผู้ประกอบการทั่วประเทศ ทำความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายทั้งการติดเครื่องหมายแจ้ง และการจัดพื้นที่ให้ถูกต้อง โดยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นไปจะออกตรวจทุกจังหวัด หากพบกระทำผิดจะตักเตือนก่อนและให้เวลาปรับปรุงจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 หากพบกระทำผิดอีกจะดำเนินการตามกฎหมาย และขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันตรวจสอบ หากพบการทำผิดขอให้แจ้งที่ศูนย์ร้องเรียนบุหรี่และสุรา หมายเลขโทรศัพท์ 02-590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับ
โดยได้ปรับเปลี่ยนรูปภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ให้เหมาะ โดยเปลี่ยนรูปคำเตือน “ควันบุหรี่นำชีวิตสู่ความตาย” ซึ่งใช้ภาพการใช้หอยสังข์รดน้ำศพเป็นสื่อ ได้เปลี่ยนใช้ขันน้ำแทนหอยสังข์ โดยบังคับพิมพ์คำเตือนทั้งบุหรี่ซิการ์แรต และบุหรี่ซิการ์ และมีผลบังคับใช้ภายหลังลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน นอกจากนี้ยังมีการกำหนดการใช้เครื่องหมายแสดงเขตสูบบุหรี่ให้ใช้สีฟ้า เขตปลอดบุหรี่แสดงด้วยสีแดง และการแสดงความหมายให้สอดรับกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2551