นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น
กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟเตือนเมื่อวันจันทร์ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในขั้นน่าวิตก โดยขณะนี้ทุกประเทศล้วนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอลงอย่างมากในสหรัฐ และประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่อาจได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน โดยการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะลดลงกว่าที่คาดการณ์
นอกจากนี้ เขาบอกว่า
นักลงทุนต่างไม่เชื่อมั่นต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 145,000 ล้านดอลลาร์ ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชประกาศเมื่อวันศุกร์ ซึ่งมีทั้งมาตรการคืนภาษีรายได้บุคคลให้กับประชาชน และมาตรการอื่นๆ
ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรป
และเอเชียดิ่งลงอย่างหนักตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ตกลงตลอดสัปดาห์ โดยในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ดัชนีหุ้นนิคเคอิของญี่ปุ่นร่วงกราวรูดกว่า 4% จนอยู่ในระดับต่ำกว่า 13,000 จุดเป็นครั้งแรก ในรอบ 26 เดือน แต่นางฮิโรโกะ โอตะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและการคลัง ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นต้องเข้าแทรกแซงและอีกหลายตลาดทั่วเอเชียก็ดิ่งลงเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นหลักของยุโรป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ตกลงไป 5-7% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการตกลงมากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เหตุวินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544
นายฌอง-คล็อด จุงเกอร์ ประธานรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป กล่าวยอมรับว่า
คงไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และเมื่อถึงเวลานั้นย่อมส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศยุโรป แต่ให้ความมั่นใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจของยุโรปยังแข็งแกร่ง