เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวจ.กาญจนบุรีรับแจ้งว่า มีช้างป่าถูกยิงบาดเจ็บในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และเสียชีวิตขณะเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรีนำขึ้นรถเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยมหิดล อ.ไทรโยค เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
ม.ล.ดลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า เปิดเผยว่า
มีการนำช้างป่ามารักษาและเสียชีวิตที่ร.พ.ปศุสัตว์จริง เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิว่ามีช้างป่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางมาตรวจสอบพร้อมด้วยปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี พบช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 25-30 ปี ถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ขาหน้าซ้าย 2 รู มีอาการบวมมาก จึงให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำช้างบ้าน 2 เชือกมาต่อช้างป่า เพื่อนำไปรักษา เมื่อช้างป่าขึ้นรถแล้วจึงล้มลงเสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว จากการตรวจสอบพบว่าช้างตัวดังกล่าวถูกยิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน จนทำให้ขาหน้าซ้ายบวมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และเกิดเป็นหนองถึงกระดูก ทำให้ช้างตัวดังกล่าวเสียชีวิต
ต่อมาเวลา 10.00 น.
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายเอิบ เชิงสะอาด ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์พื้นที่ 3 นายธรรมรัช วงศ์โสภา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เดินทางไปที่โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า เพื่อดูการผ่าพิสูจน์ซากช้าง โดยมีนายเชาวลิต นาคทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า พร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ซากสัตว์ จากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ผ่าพิสูจน์ซากช้าง โดยผ่าที่แผลซึ่งคาดว่าถูกยิงด้วยปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 เม็ด อยู่ที่โคนขาหน้าซ้าย ทำให้เกิดหนองและมีเนื้องอก จนเกิดการอักเสบ ติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ช้างตัวดังกล่าวเสียชีวิต
รายงานข่าวแจ้งว่า
พื้นที่ที่ช้างถูกยิงอยู่ที่หมู่ 6 ต.ห้วยเขย่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ทหารตำรวจป่าไม้ได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าโครงการปลูกป่าฟื้นฟู 540 ไร่ ที่มีข่าวว่าถูกนายทุนนำชาวบ้านเข้าบุกรุกแผ้วถางเพื่อครอบครองเป็นที่ทำกิน โดยนายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรี เพิ่งเข้าตรวจสอบพื้นที่เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ป่าดังกล่าวน่าจะเป็นพื้นที่เส้นทางเดินของโขลงช้างป่าที่มีอยู่ประมาณ 40-50 ตัว