เอเอฟพีรายงานวันที่ 20 ม.ค.ว่า ประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ
ผู้นำประเทศ แถลงขอร้องให้คนในสังคมยึดถือสันติภาพและสมานฉันท์ในช่วงเทศกาลอาชูรา จากนั้นเดินทางไปยุโรปทันที โดยมีกำหนด 8 วัน เยือนเบลเยียม ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ เพื่อขอแรงสนับสนุนจากชาติยุโรป ในฐานะผู้นำปากีสถานที่จะสร้างความมั่นคงและต่อสู้กับการก่อการร้าย
ด้านหนังสือพิมพ์ของสเปนรายงานว่า เจ้าหน้าที่สเปนส่งคำเตือนไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส โปรตุเกสและอังกฤษ ให้ระมัดระวังภัยก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นช่วงมูชาร์ราฟเดินทางเยือนยุโรป 8 วันนี้
หลังจากหน่วยข่าวกรองได้รับรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวปากีสถาน และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตำรวจสเปนเพิ่งทลายที่ซ่องสุมของกลุ่มก่อการร้ายได้ในบาร์เซโลนา จับกุมผู้ต้องสงสัย 14 ราย เป็นชาวปากีสถาน 12 ราย
ส่วนที่ปากีสถานเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยและประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่
ซึ่งชาวมุสลิมนิกายชีอะห์จัดงานเทศกาลอาชูรา หลังจากหน่วยความมั่นคงเพิ่งทลายแผนก่อการร้ายที่กลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่หวังสังหารหมู่เหยื่อจำนวนมากในนครการาจี เมืองท่าทางภาคใต้ โดยตำรวจแถลงว่า หน่วยความมั่นคงตรวจยึดระเบิดหนัก 6 กิโลกรัมในกระเป๋าของมือระเบิดพลีชีพ พร้อมด้วยระเบิดมือ 3 ลูก ระเบิดลูกใหญ่ 6 ลูก ปืนพก 2 กระบอก และกระสุนปืน 2 กิโลกรัม รวมถึงไซยาไนด์ที่คนร้ายจะใช้วางยาพิษในแหล่งน้ำช่วงเทศกาลอาชูรา ซึ่งเป็นวาระรำลึกการตายของอิหม่ามฮุเซ็น หลานของพระศาสดาโมฮัมหมัด
ระหว่างการสกัดแผนก่อการร้ายในเทศกาลนี้ ตำรวจยังจับกุมนายไอเตซาซ ชาห์ เด็กหนุ่มวัย 15 ปี
พร้อมชายอีกคนหนึ่ง ได้ที่ชายแดนติดอัฟกานิสถาน นายชาห์สารภาพแล้วว่า ได้รับเลือกให้เป็นทีมสำรอง 3 คนเพื่อลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน หากมือระเบิดพลีชีพตัวจริง 2 คนแรกทำไม่สำเร็จในวันที่ 27 ธ.ค.2550 เด็กหนุ่มยังให้การซัดทอดไปถึงนายไบตุลเลาะห์ เมห์ซัด สมาชิกเครือข่ายก่อการร้ายอัลไคด้า ตรงกับข้อมูลที่ซีไอเอที่ระบุว่า นายเมห์ซัดเป็นผู้บงการฆ่านางบุตโต