จัดหางานเตรียมรองรับพนักงานTITV700 อัตรา

อธิบดีกรมจัดหางาน ระบุเตรียมงานไว้รองรับพนักงานทีไอทีวี กว่า 700 อัตรา ด้านกบฎไอทีวี เชียร์พนักงาน“ทีไอทีวี” หากไม่ห่วงรายได้-รักเสรีภาพ ให้เดินหน้า“ทีพีบีเอส” ชี้ ไม่มีอะไรน่ากลัว

(19 ม.ค.51) นายมนูญ ปุญญกริยากร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า
 
กรณีสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีถูกเปลี่ยนสถานะเป็นทีวีสาธารณะ ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) จึงทำให้อาจมีการเลิกจ้างพนักงานกว่า 400 คน ซึ่งพนักงานดังกล่าวถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์การทำงานเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพนักงานดังกล่าว

กรมการจัดหางานจึงได้ประสานกับสถานประกอบการในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล เพื่อให้เตรียมตำแหน่งงานว่างไว้รองรับแล้ว โดยเบื้องต้นมีสถานประกอบการแจ้งตำแหน่งงานว่างแล้วจำนวน 775 อัตรา ประกอบด้วน ตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้า ช่างเทคนิค ช่างไฟฟ้า ช่างภาพ ผู้ช่วยช่างภาพ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก โปรแกรมเมอร์ และพนักงานขับรถ

นายมนูญ กล่าวต่อว่า

หากพนักงานคนใดเป็นผู้ประกันตน ซึ่งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก็มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ในระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเดือนสุดท้าย จึงขอให้ผู้ที่ประสงค์จะสมัครงานและผู้ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนดังกล่าว รีบไปสมัครงานและขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักจัดหางานกทม.เขตพื้นที่ 1-10 ที่ตนเองสะดวกในการเดินทาง

ด้านน.ส.ภัทราพร สังข์พวงทอง
 
พิธีกรรายการ “กบนอกกะลา” ในฐานะอดีตกบฎไอทีวี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงทีไอทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะวันนี้คือเส้นทางที่ควรจะเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ทีวีเสรี ได้ล่มสลายไปหลังจากที่กลุ่มชินคอร์ปเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นการดึงกลับมาสู่ความเป็นสาธารณะจึงเป็นหนทางที่ถูกต้อง

ทั้งนี้เห็นว่าเจตนารมณ์ของทีวีสาธารณะกับทีวีเสรีหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีปรัชญาไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือการเริ่มต้นครั้งนี้มีความพร้อมมากกว่าสมัยไอทีวีที่ต้องเริ่มจากศูนย์ แต่ครั้งนี้มีเครื่องมือระดับเฮลิคอปเตอร์ มีคนที่พร้อมมาก และการได้นายเทพชัย หย่อง มาดูแลในช่วงเปลี่ยนผ่านถือว่ามีความหวังเพราะนายเทพชัย ถือเป็นบุคคลที่มีอุดมคติ มีความเข้าใจเจตนารมณ์ของสื่อสาธารณะที่ดีที่สุดในนาทีนี้ ที่สำคัญนายเทพชัย ผ่านภาวะถูกแทรกแซงซึ่งก็สามารถต้านทานได้

“ดังนั้นขอฝากไปถึงพนักงานว่า

หากยืนยันการเป็นสื่อมวลชนที่รักในเสรีภาพ และไม่ห่วงรายได้ที่จะลดน้อยลงตามที่ได้ประกาศไว้ ทีวีสาธารณะแห่งนี้จะรองรับอุดมการณ์ของคุณได้แน่นอน ให้ไปเขียนใบสมัครแล้วทำงานต่อไป อย่าไปกลัวว่าใครจะแทรกแซงหรือรังแก ถ้าในอนาคตจะมีใครมาทำลายเจตจำนงของมันก็ต้องต่อสู้กันต่อไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าคนที่สามารถผ่านยุคที่ถูกกลุ่มทุนการเมืองครอบงำมาได้ก็จะสามารถทำได้เพราะไม่มีอะไรที่กว่านั้นอีกแล้ว” กบฎไอทีวี กล่าว