ที่สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่เช้าวันที่ 18 ม.ค.
แม้จะทราบคำสั่งของศาลปกครองที่สั่งไม่คุ้มครองชั่วคราวแล้ว แต่ยังมีพนักงานทีไอทีวีจำนวนมากเดินทางเข้ามาที่กองบรรณาธิการฝ่ายข่าวบนชั้น 13 จับกลุ่มพูดคุยถึงโชคชะตาของตัวเองที่ต้องจบชีวิตการเป็นสื่อเสรีว่าเหมือนถูกผู้มีอำนาจกลั่นแกล้ง บางคนบ่นว่าต้องตกงานพร้อมกันทั้งสามีภรรยา และยังไม่รู้ว่าจะได้ทำงานอีกหรือไม่
ซึ่งนายอัชฌา สุวรรณปากแพรก อดีต ผอ.ฝ่ายข่าว ได้พูดคุยให้กำลังใจและมีการประกาศให้พนักงานที่ได้กรอกใบสมัครเข้าทำงานที่ทีวีสาธารณะทีพีบีเอสไว้เรียบร้อยแล้ว
และมีการรวบรวมเพื่อจะนำส่งไปยังฝ่ายรับสมัครงานที่กรมประชาสัมพันธ์ กลับมารับใบสมัครคืนและให้เดินทางไปยื่นใบสมัครด้วยตัวเองเพื่อป้องกันข้อครหา โดยมีการจัดรถปรับอากาศยูโร สายเฉพาะกิจ 543 จำนวน 3 คัน นำพนักงานเดินทางไปยังกรมประชาสัมพันธ์
นายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ อดีตรอง ผอ.ฝ่ายข่าวทีไอทีวี กล่าวว่า
พนักงานมีกว่า 800 คน เป็นฝ่ายข่าวประมาณ 200 คน ทั้งหมดเดินทางไปสมัครงาน เดิมได้มีการรวบรวมใบสมัครไปส่งให้ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่เพื่อนพนักงาน แต่ได้รับการแจ้งกลับมาว่าให้ผู้ที่ต้องการสมัครนั้นไปยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง อาจจะอยากให้เห็นภาพการเฮโลไปสมัคร และวันนี้ได้ฝากหนังสือไปยื่นกับคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวฯ โดยเฉพาะภาระผูกพัน ที่เกี่ยวกับพนักงาน ซึ่งเป็นสิทธิของคณะกรรมการฯ ที่จะดำเนินการ อยากรู้ว่าจะทำอย่างไร จะได้ตอบพนักงานถูก ภาระผูกพันนี้ถ้าโอนไปต้องรับตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. หลังจากคืนที่มีการเปลี่ยนผ่าน เป็นภาระผูกพันเดิมที่ทำสัญญาไว้กับกรมประชาสัมพันธ์ และกรมประชาสัมพันธ์ แจ้งว่าจะต่อสัญญาอีก 3 เดือน ไปถึงสิ้นเดือน มี.ค. ภาระนี้ต้องโอนไปตามคำสั่งศาล เมื่อโอนไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะพิจารณาอย่างไร ถ้าจะไม่ต่อสัญญาหรือยุติสัญญาก็ต้องบอกกันล่วงหน้า 30 วัน
อดีตรอง ผอ.ฝ่ายข่าวทีไอทีวี กล่าวอีกว่า
ในช่วงที่กำลังรอฟังผลว่าจะรับพนักงานทีไอทีวีเข้าทำงานหรือไม่นั้น ได้บอกพนักงานทุกคนว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการแจ้งอะไรออกมา ขอให้ทุกคนมาที่ที่ทำงาน ตอกบัตรไปจนกว่าจะมีคำสั่งชัดเจนจากผู้ว่าจ้างที่รับภาระในปัจจุบันว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพนักงานทั้งหมด สำหรับเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งานมาหลายวันคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะอุปกรณ์ที่มีอยู่ปัจจุบันนี้เสื่อมสภาพเกือบหมดแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนมานาน ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว หลายชิ้นอายุงานเกินค่าเสื่อมราคาเป็นศูนย์ไปแล้ว แต่ยังตะแบงใช้กันอยู่ ไม่ใช่เสื่อมเพราะการปิดสถานีในช่วงนี้
นายฉัตรชัยกล่าวด้วยว่า
ผู้บริหารฝ่ายข่าวทีไอทีวี ได้ร่วมกันก่อตั้งชมรม โดยใช้ชื่อว่า “เพื่อนไอทีวี” ไม่ใช่ ทีไอทีวี เพราะไม่รู้ว่าพนักงาน 835 คน ที่ยื่นใบสมัครงานกับทีพีบีเอสจะได้รับเข้าทำงานกี่คน ตอนนี้กำลังหาสถานที่หนึ่งเป็นที่เยียวยา เพื่อนๆน้องๆ หากต้องตกงานจะได้ ช่วยกันดูแลกันเอง มีช่องทางที่ไหนที่จะรับบุคลากรตำแหน่งต่างๆ จะดูแลให้มีคนตกงานน้อยที่สุด หน่วยงานไหน สถานีโทรทัศน์ หรือว่าผู้ผลิตรายการไหนสนใจอยากได้คนทีไอทีวี แจ้งมาที่ตนได้ หากรู้จักกันเป็นส่วนตัวกับพนักงานคนใดก็แจ้งได้โดยตรง พนักงานหลายคนที่เป็นสามีภรรยากัน ตกงานพร้อมกันถึงกับนั่งนิ่งไปเลย จึงต้องมีสถานที่เยียวยา พบปะแลกเปลี่ยนข่าวสาร ชมรมจะเปิดกว้างให้ประชาชนที่อยากจะรักษาอุดมการณ์ทีวีเสรีได้เข้ามาช่วยกัน ถ้าแข็งแรงในระดับหนึ่ง ก็จะทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างที่ไอทีวีเคยทำ เท่าที่พอมีกำลังทำได้
นายฉัตรชัยยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายจอม เพชรประดับ อดีต ผช.บก.ฝ่ายข่าว และผู้ดำเนินรายการ “ตัวจริงชัดเจน” จะเข้าพบคณะกรรมการ เพื่อขอให้ทีพีบีเอสรับคนทีไอทีวีเข้าทำงานยกทีม ว่า
ไม่ได้เป็นมติของทีไอทีวี ไปต่อรองไม่ได้ เพราะรู้เจตจำนงของทีพีบีเอสอยู่แล้วว่าต้องการอะไร อาจเป็นการดำเนินการแทนน้องๆ ช่วยให้ทุกคนได้ทำงาน เท่าที่รู้คนทีวีที่ไปสมัครมีมาจากหลาย สถานี โดยเฉพาะเอเอสทีวีไปสมัครกันเยอะ ดังนั้น หาก จะเอาคนที่ทำงานโทรทัศน์เป็น เขาก็มีทางเลือกเยอะ คณะกรรมการก็แสดงเจตจำนงชัดเจนว่า สถานีทีพีบีเอสจะเริ่มที่ศูนย์ไม่ต่อยอดจากสถานีเดิม มีกระแสข่าวออกมาว่าจะไม่เอาคนทีไอทีวี เราก็ไม่ยืนยันว่าเป็นจริงหรือไม่
ทางด้านบรรยากาศการรับสมัครงานของสถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ ใน วันเดียวกันนี้ มีผู้เดินทางมาสมัครกันมาก
ทั้งนักศึกษาจบใหม่และบุคคลหลากหลายอาชีพ มากรอกใบสมัครกันเป็นที่คึกคัก โดยนายกฤษปรีดา โอสถานนท์ ผอ.สำนักทรัพยากรบุคคลและธุรการ สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ได้นำโครงสร้างทีไอทีวีมามอบให้นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งต่อให้กับคณะกรรมการนโยบายชั่วคราว องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพทีวีสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือทีพีบีเอส ทั้ง 5 คน นำไปศึกษาพิจารณา นายกฤษปรีดากล่าวว่า ขอโอกาสให้คณะกรรม-การพิจารณาพนักงานทีไอทีวีด้วย มั่นใจว่าพนักงานทุกคนมีความตั้งใจและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประ-สิทธิภาพ
ขณะที่ น.ส.ปิยฉัตร กรุณานนท์ อดีตพิธีกรและผู้ประกาศข่าวทีไอทีวี ซึ่งเดินทางมากรอกใบสมัครในช่วงสาย กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับเพื่อนพนักงาน คิดว่าอยากมีส่วนร่วมและท้าทาย ในฐานะสื่อมวลชนทำงานที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ส่วนกรณีที่มีประชาชนมาสมัครกันมาก คิดว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่รู้สึกเห็นใจคนมาสมัครใหม่เพราะไม่มีประสบการณ์ ส่วนตนมั่นใจ 50-50 ที่น่าจะได้รับการพิจารณา
ต่อมาเวลา 13.25 น. อดีตพนักงานทีไอทีวีกว่า 400 คน นำโดยนายจอม เพชรประดับ อดีต ผช.บก.ฝ่ายข่าวทีไอทีวี
และผู้จัดรายการ “ตัวจริงชัดเจน” นายชิบ จิตนิยม อดีตผู้ประกาศข่าวต่างประเทศทีไอทีวี เดินทางมาด้วยรถส่วนตัวและรถโดยสารปรับอากาศยูโร สาย 543 จำนวน 3 คัน โดยทุกคนนำหลักฐานต่างๆ และใบสมัครมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ มีการต่อแถวกันยาวเหยียด จนทำให้ ห้องที่ใช้รับสมัครแออัดคับแคบไปถนัดตา
นายจอมกล่าวว่า
พนักงานทุกคนตั้งใจมาสมัครงาน และจะมาหารือกับคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวฯ ว่าจากคำสั่งศาลปกครอง อยากจะให้พนักงานทั้งหมดโอนเข้ามาอยู่ด้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ และอยากทราบแนวทางการพิจารณาว่าจะทำอย่างไร จะรับได้มากน้อยแค่ไหน จึงต้องมาขอความชัดเจน ทีวีสาธารณะนั้น เป็นการนำเสนอข่าวสารสาระเป็นหลัก ฉะนั้น กลุ่มของเราเป็นกลุ่มที่มาจากการทำข่าวเป็นหลักและได้รับการยอมรับจากสังคม จึงมีความพร้อมทั้งทีมที่จะมาทำให้ทีพีบีเอสให้เป็นโทรทัศน์สาธารณะที่แท้จริง นอกจากนี้ อีกไม่กี่วันแล้วจะมีการออกอากาศ แต่หากความพร้อมของพนักงานไม่มี ก็จะทำให้เกิดความยากลำบากขึ้น นี่คือหลักการสำคัญที่คณะกรรมการจะต้องพิจารณา
ขณะเดียวกัน น.ส.วรวีร์ วูวนิช ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง อดีต บก.รายการฮอตนิวส์ ฮอตวีคเอ็น พร้อมด้วย น.ส.รัชนีวรรณ ดวงแก้ว อดีต ผช.บก.ข่าวการเมือง เดินทางมาที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์
แต่ไม่ได้กรอกใบสมัคร ได้กล่าวอย่างท้อแท้ใจว่า รู้สึกล้มเหลวจากการเป็นสื่อสารมวลชนที่ดี ที่มีหน้าที่รักษาสิทธิให้กับประชาชน แต่เมื่อเจอกับตัวเอง ไม่สามารถรักษาสิทธิของตัวเองได้ การที่ศาลปกครองกลางไม่รับคุ้มครองชั่วคราว จึงอยากจะทราบความชัดเจนจากคณะกรรมการว่าจะรับพนักงาน หรือมีวิธีการอย่างไรกับพนักงานทั้งหมด สำหรับยอดผู้สมัครตั้งแต่วันที่ 16-18 ม.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 2,386 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในจำนวนผู้ที่มายื่นใบสมัคร นายนาค สุรเนตร์ อายุ 69 ปี หนึ่งในผู้สมัคร กล่าวว่า ตนจบปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาสมัครในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหาร เพราะเคยทำงานอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี สมัยจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดระบบเอกสาร ตั้งแต่ปี 2502-2509 จากนั้นได้สอบเข้าทำงานที่สำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ รู้สึกเห็นใจพนักงานทีไอทีวี ที่ถูกปิด และทราบข่าวว่ามีการเปิดรับสมัครพนักงานทีวี สาธารณะทีพีบีเอส จึงเดินทางมา แม้ว่าอายุมากแล้ว แต่ไม่ เป็นอุปสรรค เพราะเชื่อว่าอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday