โฆษกตร.แจงภาพสเกตช์โจรปล้นแบงก์สวมหมวกกันน็อกปิดหน้า เป็นการสเกตช์อุปกรณ์คนร้าย ไม่ได้สเกตช์ใบหน้า
ขอให้ประชาชนเข้าใจอย่าเห็นเป็นเรื่องขบขัน ชี้เป็นการทำตามขั้นตอน เพื่อช่วยให้การติดตามคนร้ายแคบลงมา โดยอาศัยลักษณะพิเศษจากอุปกรณ์ที่คนร้ายนำมา เช่นรายนี้สวมหมวกกันน็อกชนิดเคลือบสารปรอทที่หน้ากาก ซึ่งมีราคาแพง และมีเพียงเจ้าเดียวที่นำเข้า เป็นเบาะแสให้ตามต่อได้
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกภาพสเกตช์คนร้ายปล้นธนาคารออมสิน สาขาย่อยลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 1/1 แขวงลาดพร้าว เขตจตุจักร กทม. ได้เงินไป 2.3 แสนบาท
ในท้องที่สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าภาพสเกตช์ที่ออกมา แสดงให้เห็นเพียงว่าคนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังมองไม่เห็นใบหน้าภายใน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเนื่องจากคนร้ายไม่เปิดใบหน้าให้เห็น จึงใช้วิธีนี้นำมาติดตามหาตัว ทำให้ภาพสเกตช์ดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงขบขัน เนื่องจากแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยในการติดตามคนร้าย ตามข่าวที่เสนอไป
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า
สำหรับภาพสเกตช์คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ที่ออกมาเช่นนั้น ถือเป็นขั้นตอนในการสอบสวน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่จะได้ทราบถึงรูปพรรณสัณฐานและการแต่งกายของคนร้าย เพราะธนาคารไม่ได้มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไว้ ส่วนความคืบหน้าของคดี ได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือของเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด และนำมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวน
พ.ต.อ.อาคม กล่าวว่า
ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพนักงานของธนาคาร ย้อนหลังไปว่าก่อนหน้านี้เคยมีพนักงานคนใดถูกไล่ออกหรือลาออกไป ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรู้ถึงจุดบอดของธนาคารด้วย เชื่อว่าก่อนก่อเหตุน่าจะเข้ามาดูลาดเลาและสังเกตการณ์ก่อน นอกจากนี้ยังพบว่าธนาคารไม่ได้ติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนเหตุร้ายด้วย
ผกก.สน.พหลโยธิน กล่าวต่อว่า
สำหรับคนร้ายขณะนี้มุ่งไปทุกกลุ่ม โดยนำข้อมูลที่คนร้ายเคยก่อเหตุปล้นธนาคารมาเชื่อมโยง ตรวจสอบลายนิ้วมือและนิ้วเท้าของผู้ที่เคยก่อเหตุ คนร้ายรายนี้พยานระบุว่าที่ต้นแขนมีขนดกมาก ส่วนการติดตามตัว ตำรวจกก.สส.น.2 และสน.พหลโยธิน ได้กระจายกันออกตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้หลบหนี หาพยานที่อาจจะเห็นคนร้ายหลังก่อเหตุ รวมทั้งหาสิ่งของของคนร้ายที่อาจจะถอดทิ้งไว้ในกองขยะหรือริมถนน เช่นเสื้อผ้าและหมวกนิรภัย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังธนาคารออมสินที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามถึงภาพสเกตช์ของตำรวจ พนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า
พนักงานทุกคนต่างวิจารณ์กันอย่างมาก ว่า ออกภาพสเกตช์คนร้ายมาอย่างนี้แล้วจะจับได้อย่างไร พนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันทั้งหมด ไม่สามารถจะจดจำรูปพรรณคนร้ายได้อย่างชัดเจน เห็นแต่ว่าคนร้ายสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบมาจริงๆ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกตร. พร้อมด้วยส.ต.ท.ภานุมาตร์ จุลมูล ผบ.หมู่ฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากรรม 1 สน.ย่อยบางเขน เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้สเกตช์ภาพคนร้ายปล้นธนาคาร ออกมาแถลงข่าวชี้แจงกรณีดังกล่าว ว่า
การสเกตช์ภาพคนร้ายเป็นไปตามกระบวนการทำงานของตำรวจ และเป็นไปตามคำยืนยันของพยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสุภาพสตรี 2 ท่าน ที่เห็นลักษณะคนร้ายทุกประการ การสเกตช์ภาพนี้ถือเป็นการสเกตช์อุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของคนร้าย ไม่ใช่ใบหน้า เนื่องจากคนร้ายปิดบังใบหน้าด้วยการสวมหมวกกันน็อก การสเกตช์ภาพหมวกกันน็อกเต็มใบแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน เคยมีแต่ที่สวมหมวกกันน็อกแล้วเห็นบางส่วนของใบหน้าเช่น ดวงตา อย่างไรก็ตามภาพนี้จะส่งให้ฝ่ายสืบสวน เพื่อสืบหาคนร้ายจากอุปกรณ์ที่สเกตช์ต่อไป
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า
สำหรับภาพสเกตช์ที่ได้ ถือว่ายังมีประโยชน์ในการสืบสวน เนื่องจากเป็นภาพคนร้ายที่สวมหมวกกันน็อกชนิดเคลือบสารปรอทที่หน้ากาก ซึ่งมีราคาแพง และมีเพียงเจ้าเดียวที่นำเข้าหมวกกันน็อกรุ่นนี้จากประเทศแคนาดาเข้ามา และผู้ที่ขายก็ขายไปเพียงไม่กี่ราย ฝ่ายสืบสวนจะเริ่มหาคนร้ายจากตรงนั้น เพื่อหาว่าส่งไปขายที่ไหนบ้าง ใครมาซื้อไปบ้าง
"ปัจจุบันการสเกตช์ภาพคนร้ายทำได้ยากมาก เพราะคนร้ายมักปิดบังใบหน้า โดยเฉพาะการสวมหมวกกันน็อก ซึ่งได้แจ้งตามธนาคารและร้านทองให้ระวังในเรื่องนี้แล้ว เพราะฉะนั้นประชาชนที่เห็นว่าภาพสเกตช์ดังกล่าว เป็นเรื่องตลกขบขัน ก็ขอให้เข้าใจการทำงานของตำรวจด้วย ปกติการสเกตช์ภาพคนร้ายลักษณะที่ไม่เห็นใบหน้าเช่นนี้จะไม่เผยแพร่กับสื่อมวลชน เนื่องจากประชาชนไม่สามารถแจ้งเบาะแสได้ จะส่งให้ฝ่ายสืบสวนสืบ เพื่อช่วยให้การติดตามคนร้ายแคบลงมา โดยอาศัยลักษณะพิเศษจากอุปกรณ์ที่คนร้ายนำมา ก่อนหน้านี้ก็มีการสเกตช์อุปกรณ์ที่พยานเห็น เช่นต่างหู ด้านข้าง หรือด้านหลังคนร้าย ก็ต้องสเกตช์ตามที่พยานเห็น เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการติดตามคนร้ายให้แคบลง" โฆษกตร.กล่าว
ส.ต.ท.ภานุมาตร์ กล่าวว่า
การสเกตช์เป็นการวาดภาพตามคำยืนยันของพยาน ซึ่งเมื่อภาพออกมาแล้วพยานก็ยืนยันว่าเหมือนจริงๆ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยสเกตช์ภาพที่คนร้ายปิดบังใบหน้าด้วยการใส่หมวกกันน็อกทั้งใบ เคยมีแบบเห็นเพียงตา ด้านข้าง ก็ต้องสเกตช์ตามที่พยานบอก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สเกตช์แบบใส่หมวกกันน็อกปิดหน้าเต็มใบ