ฆ่าเสี่ยน้อยร้อยล้านลพบุรี นักธุรกิจค้าจยย.รายใหญ่

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 ม.ค. พ.ต.ท.ชุมพล คร้ามบุญลือ สารวัตรเวร สภ.ท่าหิน อ.เมืองลพบุรี
 
รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงบาดเจ็บบนถนนปรางค์สามยอด ตรงข้ามสำนักงานประปาเทศบาลเมืองลพบุรี  เขตเทศบาลเมืองลพบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ  จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ โล่สุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.ประเสริฐ หนูดี รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ท.อดิศร บุญประทีป รอง ผกก.(สส.) แพทย์เวร รพ.ลพบุรี  หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง  พบร่างนายสุปัญญา ลิ้มทรงพรต หรือ “เสี่ยน้อย” อายุ 50 ปี เลขที่ 4-10 ถนนพระราม เขตเทศบาลเมืองลพบุรี  และเป็นเจ้าของบริษัทศรีสมบูรณ์ จำกัด จำหน่ายรถจักรยานยนต์ นอนหายใจรวยริน ลักษณะศีรษะพาดฟุตปาท สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม. เข้าบริเวณหน้าอก 2 นัด ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน ขกบ 525 ลพบุรี ล้มคว่ำ ลูกฟุตบอล 1 ลูก ปลอกกระสุนปืน 11 มม.จำนวน 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ลพบุรี แต่เนื่องจากกระสุนถูกจุดสำคัญของร่างกายทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา  

สอบสวนได้ความว่า

นายสุปัญญาประกอบธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ  มีสาขาตั้งอยู่ในตัวเมืองลพบุรีและต่างอำเภอกว่า 20 สาขา  มีฐานะร่ำรายเข้าขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองลพบุรี  และยังเป็นเจ้าของบ้านทรงไทยปลูกด้วยไม้สักทอง บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส  สาขาลพบุรี  มูลค่ากว่า  50 ล้านบาท  เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำละครมาแล้วหลายเรื่อง ก่อนเกิดเหตุนายสุปัญญาขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพร้อมนำลูกฟุตบอลไปเล่นออกกำลังกายที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร จากนั้นเดินทางกลับบริษัทซึ่งใช้เป็นที่พัก  ขณะขี่รถมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบอำพรางใบหน้าขี่ตามประกบ  สบจังหวะคนที่ นั่งซ้อนท้ายชักปืนพกกระหน่ำยิงใส่นายสุปัญญาจำนวน 3 นัดซ้อน แต่กระสุนถูกบริเวณอก 2 นัด ส่วนอีกนัดไม่ถูก ทำให้นายสุปัญญาตกจากรถ ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป

เบื้องต้นตำรวจมุ่งปมสังหารขัดแย้งธุรกิจ  โดยทราบว่า

นายสุปัญญา  หรือที่ชาวลพบุรีเรียกกันว่า  “เสี่ยน้อย” นับเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุด  โดยเริ่มต้นชีวิตจากการร่วมทุนทำธุรกิจจำหน่ายรถจักรยานยนต์กับพี่ชายเมื่อ 10 ปีก่อน  ต่อมาพี่ชายถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต นายสุปัญญาจึงดูแลกิจการทั้งหมดแทน และในช่วงหลังคู่แข่งทางด้านธุรกิจถูกยิงเสียชีวิตไปถึง 2 ราย โดย 1 ใน 2 เป็นคนสนิทของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่ง ทำให้ หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่นายสุปัญญาในฐานะคู่แข่ง  แต่ก็ไม่มีพยานหลักฐาน ระยะหลังนายสุปัญญาจะเก็บตัวเงียบไม่ค่อยออกงานสังคมมากนัก  โดยประเด็นดังกล่าวอาจเป็นไปได้ว่าญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เข้าใจผิดคิดว่านายสุปัญญามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี  ว่าจ้างมือปืนตามประกบยิงเสียชีวิต  อย่างไรก็ตาม ประเด็นทั้งหมดเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น  ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริงตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนต่อไป