เศรษฐีใหม่เปิดเผยต่อว่า กระทั่งตอนเช้าวันที่ 16 ม.ค. วันหวยออก
ตนตื่นขึ้นมาตอนเช้าไหว้พระแล้วเคาะหิ้งพระบนหัวนอน ซึ่งตั้งบูชาพระหลวงพ่อแก่นจันทร์ ของวัดหนองแหน ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขอพรให้มีโชคมีลาภตามความหวังของคอหวยทั่วไป ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาหวยออก นั่งฟังผลการออกสลาก กินแบ่งรัฐบาลทางวิทยุกับภรรยาและลูกๆ อีก 3 คน เมื่อได้ยินประกาศว่าหมายเลขรางวัลที่ 1 ได้ แก่หมายเลข 556010 ถึงกับดีใจสุดขีด คว้าคอภรรยาและลูกๆ มาหอมแก้มพร้อมกันด้วยความสะใจ เพราะมั่นใจว่าถูกรางวัลที่หนึ่งอย่างแน่นอน จากนั้นรีบนำลอตเตอรี่ออกมาตรวจดู ก็ยิ่งดีใจกันยกใหญ่ เมื่อพบว่าถูกรางวัลแจ็กพอตได้เงินอีก 16 ล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีในพริบตาอย่างไม่อยากเชื่อตัวเอง พยายามตบหน้าตัวเองหลายครั้ง ว่าฝันไปหรือเปล่า พูดแล้วก็ยังดีใจไม่หาย
เศรษฐีโคตรเฮงกล่าวต่ออีกว่า สำหรับพระหลวงพ่อแก่นจันทร์ที่กราบไหว้บูชาอยู่ทุกวัน ได้มาจากวัดหนองแหน บ้านเกิด เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 50 เนื่องจากไปเป็นมัคนายก ในพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถวัดหนองแหน
แต่ไม่รู้ว่าอะไรดลบันดาลใจให้พูดประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าให้ญาติโยมที่ไปทำบุญร่วมกัน นำเลขเด็ด 29 ไปแทงหวย เพราะเป็นเลขมงคล ปรากฏว่าถึงวันลอตเตอรี่ออกงวดวันที่ 1 ส.ค. 50 เลขท้ายสองตัวออก 29 ตรงเผง ถูกกันทั้งหมู่บ้าน ตนแทงหวยใต้ดินถูกเป็นเงินรวม 3 แสนบาท จึงบริจาคให้วัดไป 1 แสนบาท พร้อมกับเช่าพระพุทธรูปบูชาเนื้อโลหะขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว มากราบไหว้บูชาบนหิ้ง 1 องค์ จนทุกวันนี้ โดยทุกครั้งจะอธิษฐานขอพรให้มีโชคมีลาภ หากมีเงินทองก็จะนำไปสมทบทุนสร้างพระอุโบสถให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว เชื่อว่าหลวงพ่อแก่นจันทร์คงดลบันดาลให้มีโชคครั้งใหญ่นี้
ซึ่งตนจะนำเงินจำนวนหนึ่ง หลักล้านบาทไปถวายสร้างพระอุโบสถตามที่ตั้งใจไว้
ส่วนที่เหลือจะหารือกับครอบครัวก่อน แต่ที่แน่ๆคือ หลังจากได้เงินมา จะนำไปจ่ายค่าลอตเตอรี่ก่อน พร้อมกับตบรางวัลให้คนขายที่นำโชคมาให้จำนวน 1 แสนบาท ส่วนหนึ่งก็จะนำไปเข้าบัญชีไว้เป็นทุนการศึกษาแก่ลูก 3 คน คนโตคือนายเจษฎาศักดิ์ อายุ 18 ปี คนที่สองคือ ด.ช.กิตติศักดิ์ หรือน้องกัน อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนภัทรนุสรณ์ สามพราน และ ด.ญ. ชยานิต หรือน้องแจน เสือแสง อายุ 8 ขวบ ลูกสาวบุญธรรม เรียนอยู่ชั้น ป.2
นายขุนแผนยังเล่าถึงชะตาชีวิต เมื่อครั้งอดีต ก่อนจะพลิกชะตาชีวิตกลายมาเป็นมหาเศรษฐีชั่วพริบตาว่า
เมื่อก่อนมีอาชีพทำไร่อ้อยที่โคราช ต้องจำนองที่นาหลายไร่เพื่อนำเงินไปลงทุน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นหนี้สินหลายแสนบาท ต้องตัดสินใจบากหน้าหอบลูกเมียเข้ากรุงเทพฯ ไปตายเอาดาบหน้า โดยได้เพื่อนแนะนำให้รู้จักธุรกิจซื้อเศษเงินเศษทองมาหลอมเป็นแท่ง เพื่อส่งขายต่อให้ร้านทอง ช่วงที่ตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟุบ ฟองสบู่แตก ค่าเงินบาทลอยตัวพอดี แต่นับว่าเป็นโอกาสดีของตน เนื่องจากเศษเงินเศษทองขณะนั้นราคาถูก ทำให้หาซื้อไปหลอมขายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ละวันได้เงินเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จนสามารถเก็บหอมรอมริบรวบรวมเงินไปไถ่ที่นาคืนได้ภายในไม่กี่ปี
นอกจากนี้ ยังนำเงินไปซื้อที่นาข้างบ้านเพิ่มอีกนับร้อยไร่
กระทั่งมาในระยะหลัง เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ปรากฏว่าส่งผลให้เศษเงินทองแพงขึ้น สวนกระแสธุรกิจหลอมเศษเงินเศษทองแย่ลง จากที่เคยมีคนงานช่วยกันหลอมประมาณ 10 กว่าคน ตอนนี้เหลือแค่คนเดียว สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 ตอนนี้ยังเก็บไว้กับตัว โดยเซ็นชื่อสลักหลังไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะไปขึ้นเงินวันไหนขออุบไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับโชว์สลากกินแบ่งรัฐบาลชุดมหาเฮงที่ถูกรางวัลที่หนึ่งให้ผู้สื่อข่าวดูด้วยใบหน้าสุดปลื้ม โดยไม่ลืมฝากทิ้งท้ายถึงผู้ที่ทราบข่าวนี้แล้วจะไปหา เพื่อขอเงินส่วนแบ่งจากลาภลอยก้อนโตว่า คงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล ว่าเคยมีการเกื้อหนุนจุนเจือกันมาก่อนหรือเปล่า
ขณะเดียวกันที่ จ.อุทัยธานี นายสกล เหลืองบริบูรณ์ อายุ 63 ปี
บิดาของโจ้-อัมรินทร์ นักร้องชื่อดังวง pause อยู่บ้านเลขที่ 2 ถนนท่าช้าง หมู่ 4 ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี อาชีพชายลอตเตอรี่เปิดเผยว่า ได้รับลอตเตอรี่มาขายประมาณ 30 เล่ม และมีลูกค้าขาประจำไม่ขอเปิดเผยชื่อสั่งซื้อไว้ 1 คู่ โดยไม่ได้รับลอตเตอรี่ไป ปรากฏว่าลูกค้าคนดังกล่าวเกิดถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 556010 เป็นเงิน 4 ล้านบาท จึงได้โทรศัพท์ไปตามให้มารับลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ตอนแรกที่โทรศัพท์บอกลูกค้าผู้โชคดีไม่เชื่อ คิดว่าตนพูดล้อเล่น แต่ตนไม่คิดอยากได้ของใคร เพราะประกอบอาชีพค้าขายมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ คือนายประสพ และนางละมุน เหลืองบริบูรณ์ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตลง ตนก็ดำเนินกิจการต่อจนถึงปัจจุบัน
สำหรับนายสกลเจ้าของร้านลอตเตอรี่ผู้ซื่อสัตย์รายนี้ อดีตเคยประกอบอาชีพเป็นผู้แทนจำหน่ายหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มาตั้งแต่สมัยที่ใช้ชื่อหัวว่า “เสียงอ่างทอง” ต่อมาหันเหไปประกอบอาชีพทำปั๊มน้ำมัน แต่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ จึงหันมาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน