นางประภัสสร พงศ์พันธุ์พิศาล โฆษกโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า
หลังพ.ร.บ. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการยาสูบต้องมีภาระเสียภาษีเพื่อนำไปเป็นเงินอุดหนุนให้กับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ในอัตรา 1.5% ของภาษีที่เก็บจากยาสูบอยู่นั้น ทางโรงงานยาสูบซึ่งเป็นผู้ผลิตบุหรี่ยี่ห้อ กรองทิพย์ สายฝน วันเดอร์ ฯลฯ ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมต่างๆแล้ว เห็นควรว่าโรงงานจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากภาษีที่ปรับเพิ่มขึ้นเอง โดยจะคงราคาขายส่งและขายปลีกบุหรี่ทุกยี่ห้อที่โรงงานยาสูบผลิตไว้ที่ราคาเดิม ราคาขายปลีกบุหรี่เพิ่งจะมีการปรับเพิ่มมาไม่นาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของโรงงานพอสมควร ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หากโรงงานยาสูบจะปรับราคาขึ้นอีกคงจะไม่เหมาะสม
"การที่รัฐจะเพิ่มภาษีเพื่อนำเงินไปใช้ในกิจกรรมทีวีสาธารณะ ทางยาสูบก็พร้อมรับผิดชอบ
เพราะรายได้ของโรงงานต้องนำส่งรัฐอยู่แล้วในอัตรา 88% ของกำไร ดังนั้นการรับผิดชอบตั้งแต่แรกก็มีค่าไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามการเข้าไปรับภาระของโรงงานจะมียอดเฉลี่ยต่อซอง 0.30 บาท ซึ่งอาจจะกระทบกับกำไรของโรงงานยาสูบบ้าง" นางประภัสสรกล่าว