เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์รับเห็นชอบแบบพระสมเด็จเหนือหัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8ม.ค.) นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด

ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชนและผิดพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค ในการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว เข้าพบพนักงานสอบสวนสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมตรวจสอบเอกสารที่ดีเอสไอ ยึดมาจากบริษัทไดมอนด์ฮิลล์ จำกัด โดยภายหลังการพบพนักงานสอบสวนเกือบ 2 ชั่วโมง นายสิทธิกรได้เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ พูดเพียงว่ายังต้องเจอกันอีกหลายครั้ง
 

ด้านนายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคฯ เปิดเผยว่า

ภายหลังดีเอสไอ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบริษัทไดมอนด์ฮิลล์ จำกัด ที่ตึกช้าง ตามขั้นตอนก่อนเปิดเอกสารเพื่อทำการตรวจสอบ นายสิทธิกรและเจ้าหน้าที่บริษัทจะต้องร่วมเป็นพยานในการเปิดกล่องเอกสาร หลักฐานเพื่อตรวจสอบว่า หลักฐานทั้งหมดเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง กับบริษัท ไดมอนด์ฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด จากนั้นจึงจะเรียกตัวนายสิทธิกรมาให้การเพิ่มเติม
 

นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม วรมหาวิหารและมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์

ยังขาดเพียงประเด็นว่าวัดและมูลนิธิฯมีความเกี่ยวข้องรู้เห็นอย่างไร กับการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ส่วนเรื่องรูปแบบของพระสมเด็จเหนือหัวที่มีพระมหามงกุฎอยู่ด้านหลังนั้น เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯให้การว่านายสิทธิกรเป็นผู้ออกแบบพระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จากนั้นได้นำมาให้เจ้าอาวาสพิจารณา ซึ่งเจ้าอาวาสก็พอใจและเห็นชอบให้จัดสร้าง ประเด็นนี้จึงเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ความเห็นชอบของเจ้าอาวาส เป็นการเห็นชอบในภาวะใด
 

สำหรับดอกไม้พระราชทานที่เผยแพร่ว่านำเป็นมวลสารจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว เจ้าอาวาสให้การว่า

ได้รับพระราชทานติดกัณฑ์เทศน์ซึ่งในกุฎิมีเป็นจำนวนมาก จึงมอบให้นำไปใช้เป็นมวลสาร ซึ่งดีเอสไอ จะต้องตรวจสอบกับสำนักพระราชวังว่า ตามปกติวิธีการขอใช้ดอกไม้พระราชทานเป็นอย่างไร

“ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวเลขจำนวนเงินที่มีการเช่าจองพระสมเด็จเหนือหัวที่ชัดเจน และยังไม่ทราบยอดผู้เสียหายที่ต้องการขอคืนพระ จึงอยากประชาสัมพันธ์อีกครั้งให้ประชาชนที่ต้องการเงินคืนติดต่อมายัง ดีเอสไอ ที่หมายเลข 02-831-9888 ต่อ 2204 หรือ 085-163-5331 เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้สอบถามว่า การเช่าพระเกิดจากความเข้าใจผิดต่อโฆษณาเรื่องดอกไม้พระราชทานและตราพระมงกุฎหรือไม่” นายสรรเสริญกล่าว