ครบ7วันพระพี่นาง ในหลวง เสด็จบำเพ็ญกุศล

หลังจากที่พสกนิกรไทยต้องสูญเสียสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ ตั้งแต่ก่อนอรุณรุ่งวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพถวายพระเกียรติสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป รวมถึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ฯ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นมานั้น 

เปิดศูนย์ข่าวพระราชพิธีพระศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.59 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์จำนวน 8 รูป จากวัดจักรวรรดิ และวัดราชสิทธาราม ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอเฝ้ารับเสด็จ ตั้งแต่หน้าประตูวิเศษไชยศรี จนถึงทางเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาในช่วงสาย สำนักพระราชวังเปิดศูนย์ข่าวพระราชพิธีพระศพที่ห้องประชุม 1 อาคารสำนักพระราชวัง เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมข่าวสารที่ถูกต้อง เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีที่จะปฏิบัติทั้งหมด รวมทั้งการเสด็จฯของพระบรมวงศานุวงศ์ ในการประกอบพระราชพิธีทุกพระองค์ จนครบกำหนดการบำเพ็ญกุศล 100 วัน ทั้งนี้ นายรัตนวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการพิเศษ สำนักพระราชวังกล่าวว่า ศูนย์ข่าวแห่งนี้จะเป็นที่ สำหรับบริการข้อมูลให้กับสื่อมวลชน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มาประสานงาน และออกข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีในแต่ละวัน จัดเตรียมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ ยังสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของสำนักพระราชวัง www.palaces.thai.net  

ในหลวง-ราชินีเสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลฯ 

นอกจากนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สำนักพระราชวังแจ้งข่าวหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญ พระราชกุศลทักษิณานุประทาน 7 วัน พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พุทธศักราช 2551 ดังนี้ นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งบังคับบัญชาสำนักพระราชวัง รับสนองพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯสั่งว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ สิ้นพระชนม์จะบรรจบครบ 7 วัน ในวันพุธที่ 9 ม.ค. 2551 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ดังมีรายการต่อไปนี้ วันพุธที่ 9 ม.ค. 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 17.00 น. และในวันพฤหัสฯที่ 10 ม.ค. 2551 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 10.30 น. 

คนยังแน่นศาลาสหทัยสมาคม

ส่วนที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายสักการะ ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 โดยเลื่อนการเปิดมาเป็นเวลา 07.45 น. ซึ่งตลอดทั้งวันประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ส่งผลให้ศาลาสหทัยสมาคมดูแคบไปถนัด เนื่องจากเต็มไปด้วยประชาชนที่สวมชุดไว้ทุกข์ มาร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทั้งนี้ สำนักพระราชวังต้องจัดให้แต่ละคณะเข้ามาทีละชุด เพื่อลดความแออัดและเพื่อความเป็นระเบียบ นอกจากนี้ ยังมอบหนังสือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ในวโรกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 6 พ.ค.2550 ซึ่งจัดพิมพ์โดยทางกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ให้กับประชาชนกลับไปเป็นที่ระลึกด้วย 

บุคคลสำคัญพร้อมใจถวายพวงมาลา 

นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันยังมีคณะบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมถวายสักการะด้วยความภักดี พร้อมถวายพวงมาลาต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ อาทิ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.พล.1 รอ. คณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประจำคณะกรรมาธิการศาสนา จริยธรรม และวัฒนธรรม แห่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายจิรุตร์ อิศรางกูร บุตรนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองเลขาธิการพระราชวัง ถวายพวงมาลาในนามของราชสกุลอิศรางกูร นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยและคณะกรรมการบริหารพรรค นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาและคณะผู้บริหาร 

กำนัน-ผญบ.ดึง ปชช.ร่วมทำดีถวาย 

นายชำนาญ ภูวิลัย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กล่าวหลังลงนามถวายสักการะว่า ทางสมาคมได้ประสานไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ ให้ร่วมกันเชิญชวนลูกบ้านไปรวมตัวกันที่วัดในหมู่บ้านเพื่อประกอบพิธีกรรมในการบำเพ็ญกุศลถวายแด่พระองค์ และร่วมกันทำความดีถวาย ซึ่งขณะนี้เริ่มต้นดำเนินการกันแล้วในหลายจุด นอกจากนี้ ยังประสานไปยังทุกตำบลหมู่บ้านให้กำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางมาถวายสักการะ ที่ศาลาสหทัยสมาคม และต้องเป็นผู้ประสานงานในเรื่องของการเดินทาง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย 

ปปช.แนะยึดแนวทางพระองค์มาปฏิบัติ

ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เดินทางมาร่วมถวายสักการะ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม และสาธารณสุข พระกรณียกิจของพระองค์นั้นซาบซึ้งอยู่ในจิตใจของพวกเราทุกคน ป.ป.ช.อยากเชิญชวนให้ประชาชนนำแนวทางที่พระองค์ปฏิบัติมายึดไว้เป็นแบบอย่าง รวมทั้งทำความดีเพื่อถวายพระองค์ด้วย

นานาประเทศร่วมไว้อาลัยไม่ขาดสาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเปิดถวายสักการะจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีเหล่าคณะทูตานุทูตจากหลายประเทศเดินทางมาลงนามสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย เริ่มจากนายลาร์ แบคสตอม เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งกล่าวภายหลังว่า รับตำแหน่งทูตอยู่ประเทศไทยมาแล้ว 3 ปี เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จบ้าง เช่น ในช่วงที่เสด็จไปทอดพระเนตรคอนเสิร์ต ส่วนตัวรู้สึกชื่นชมประทับใจในพระองค์ และในนามของรัฐบาลประชาชนชาวฟินแลนด์ ขอแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย นอกจากนี้ ยังมีนางมาริสา หลุยส์ เฟอร์นันเดส เอกอัครราชทูตคิวบาประจำประเทศไทย นายซาริม อาซาอี คาเท็ม อัลซาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประจำประเทศไทย 

ตั้งโต๊ะพิเศษรับเฉพาะคณะทูต

ช่วงบ่ายได้มีคณะทูตานุทูตและผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศทยอยลงนามถวายสักการะกันเนืองแน่น ทำให้สำนักพระราชวังจัดโต๊ะลงนามถวายสักการะสำหรับคณะทูตเป็นการเฉพาะ นอกเหนือจากโต๊ะลงนามสำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพระสงฆ์   ทำให้พื้นที่บริเวณห้องโถงกลางของศาลาสหทัยสมาคม ลดความแออัดลงไป สำหรับคณะทูตเดินทางมาในช่วงบ่าย ประกอบด้วย พลโทขะตีร์ ฮัสซัน ข่าน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ประจำประเทศไทย นายอับดัลลา อัล-ฮามาร์ เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ ประจำประเทศไทย นายโฆอาคิน มอนเตส เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐชิลี ประจำประเทศไทย นายปีเตอร์ เอส. ทีเอช. มาแรส เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย นายอีวาน โฮเทค เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็ก ประจำประเทศไทย นายเอ็ดการ์ด เทลเลส ริเบย์โร เอกอัครราชทูตบราซิล ประจำประเทศไทย นายฮาฟีส ซาเล็ม มูฮำหมัด บา-โอมาร์ เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมาน ประจำประเทศไทย นายเหอ ชางชุย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปองค์การอาหารและการเกษตร องค์การสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก นายอาโนล โอเบอร์ไบเออร์ เอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำประเทศไทย นายบรู๊ค แบริงตัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ นายยันมา เตชัน เอกอัครราชทูตเบลเยียม ประจำประเทศไทย นายโทโมโอะ โฮซูมิ ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีทูตจากประเทศอิสราเอล ศรีลังกา แกมเบีย สโลวัก ซูดาน อิตาลี เป็นต้น 

ทูตสหรัฐฯทึ่งพลังคนไทยรักพระพี่นาง 

ขณะเดียวกัน นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ได้เคยพูดคุยกับชาวอเมริกันและคนไทย ในประเทศสหรัฐฯ ทราบดีว่าทุกคนเสียใจกับการจากไปของพระองค์ เนื่องจากคนไทยและชาวอเมริกันเองก็ต่างมีความเคารพในราชวงศ์ของไทยทุกพระองค์ ที่ผ่านมาได้ทราบถึงพระกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม และทรงชื่นชอบเพลงคลาสสิก จึงไม่แปลกใจที่ทั้งคนไทยและชาวอเมริกันจะมีความรักในพระองค์ ด้านนายโลรอง บีลี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ พระองค์ท่านมีพระกรุณาธิคุณกับคนฝรั่งเศสอย่างมาก ทรงอุปถัมภ์และก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมภาษาฝรั่งเศสและฝรั่งเศสศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระเมตตาต่อเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสทุกคน 

อัญเชิญพระราชสาส์นคิงลักเซมเบิร์ก

ต่อมา นายมาร์ค อุนเกอร์ฮัยเยอร์ เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายชาร์ลส ชมิด รองหัวหน้าคณะทูตสถานเอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย มาลงนามสักการะ พร้อมถวายพระราชสาส์นจากแกรนด์ดยุกอองรี กษัตริย์แห่งลักเซมเบิร์ก มีใจความว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลไทย ตลอดจนประชาชนชาวไทย ในการจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คุณงามความดีและพระเกียรติคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ ที่ทำให้กับประชาชนชาวไทยอย่างมากมาย จะถูกจดจำไว้ตลอดไป 

พระไต้หวันสวดถวายพระกุศล

ต่อมาเวลา 13.30 น. พระเถระซินติ้ง เจ้าอาวาสวัดโฝวกวงซัน สาขาใหญ่อันดับ 3 ประเทศไต้หวัน พร้อมด้วยคณะสานุศิษย์เดินทางมาลงนามถวายสักการะ และทำพิธีสวดพระพุทธมนต์มหาปรัชญาปารมิตาสูตร ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ภายหลังทำพิธีเสร็จ พระเถระซินติ้งเปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เป็นแบบอย่างของความดี ท่านเป็นพุทธมามกะที่ดี เปรียบเหมือนเป็นพระโพธิสัตว์ของคนไทย เชื่อว่าผลบุญที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติมาตลอดชีวิต จะส่งให้พระองค์จุติเป็นเทวดาในสรวงสวรรค์

ธิดา ม.จ.ปิยะรังสิตซึ้งในพระเมตตา 

ด้าน ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ธิดาในหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ในฐานะกงสุลใหญ่คอสตาริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า แม้เตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อพระองค์ สิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเศร้าเสียใจ แม้พระองค์จะจากไป แต่ได้ทรงงานฝากไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานในมูลนิธิต่างๆ ตลอดจนพระนิพนธ์อีกหลายเล่มที่คนรุ่นหลังสามารถนำมาศึกษาได้ ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ได้เคยถวายงาน พระองค์โดยตรง แต่ก็ทรงมีเมตตากับครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่หม่อมเจ้าปิยะรังสิต ท่านพ่อของตน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ ก็ทรงเขียนคำในหนังสือที่ระลึกในงานศพ หลังจากนั้น ตนมีโอกาสเขียนหนังสือของตัวเองอยู่ 3 เล่ม ทุกเล่มพระองค์ก็จะทรงเขียนคำนำให้ โดยเฉพาะที่ประทับใจมากที่สุด คือเล่มสุดท้ายที่เขียนนั้น พระองค์ทรงตรวจทานคำผิดให้ด้วย จึงถือเป็นเจ้านายที่มีพระกรุณาธิคุณกับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระกรณียกิจที่ผ่านมานั้น เห็นชัดว่า ทรงมีความเมตตากับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนธรรมดา หรือว่าใครก็ตาม จะได้รับพระเมตตาเสมอเหมือนกันหมด 

ศิลปินดาราปลาบปลื้มพระกรุณาธิคุณ

จากนั้นมีคณะศิลปินดาราจากบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อาทิ นิโคล และจีระศักดิ์ ปานพุ่ม แหวน-ธิติมา สุตสุนทร ไมค์ ภิรมย์พร ต่าย-อรทัย ดาบคำ อู๋-ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เป็นต้น มาร่วมถวายสักการะ โดยนิโคล และจีระศักดิ์ ปานพุ่ม กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากเคยถวายงานรับใช้ภายใต้โครงการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มเป็นที่สุด เพราะตลอดเวลาพระองค์ทรงงานหนักเพื่อคนไทย พวกเรายังน้อมรำลึกถึงพระองค์เสมอ และจะนำแนวคิดวิธีการทรงงานของพระองค์มาเป็นแบบ อย่างในการทำงานของพวกเราต่อไป 

วงการดนตรีคลาสสิกสูญเสียยิ่งใหญ่

เช่นเดียวกับ นายบัณฑิต อึ้งรังษี ผู้ชนะเลิศการแข่งขันวาทยากรระดับโลก กล่าวว่า การสิ้นพระชนม์ ของพระองค์ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการเพลงคลาสสิก สมัยที่ตนชนะเลิศการแข่งขันวาทยากรมาใหม่ๆ เคยโปรดฯ ให้เข้าเฝ้า สิ่งที่ประทับใจคือพระองค์ ทรงไต่ถามถึงการทำงานในอาชีพนี้ โดยเฉพาะการทำงานกับคนต่างชาติ ว่ามีความยากลำบากแค่ไหน หลังจากนั้น ทรงมาดูการแสดงคอนเสิร์ตที่ตนเป็นวาทยากรรวมแล้วถึง 3 ครั้ง ยอมรับว่า จากที่ได้พูดคุยกับพระองค์แล้วรู้สึกได้ เลยว่า พระองค์มีความรู้เรื่องดนตรีคลาสสิกมาก แม้จะไม่ได้เป็นนักดนตรีอาชีพ แต่ความรู้ที่รับสั่งออกมาแสดงว่าทรงฟังดนตรีคลาสสิกและศึกษามามากพอสมควร ทั้งที่ผ่านมาทรงอุปถัมภ์ดนตรีคลาสสิกด้วยการใช้ทุนทรัพย์ ส่วนพระองค์ให้เด็กไปศึกษาต่อ เพื่อเป็นการยกระดับความรู้ในเรื่องดนตรีคลาสสิก หลังจากนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ตนจะได้สืบสานดนตรีคลาสสิกที่พระองค์รักให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด ด้วยการเตรียมจะจัดตั้งมูลนิธิเพื่อหาเครื่องดนตรีไปมอบให้กับมือเด็กกำพร้าให้มากที่สุด ให้ความทรงจำเกี่ยวกับพระองค์อยู่คู่ไปกับพวกเราคนไทยตลอดไป และตั้งใจจะตั้งวงออเคสตร้า ที่ใช้ชื่อเดียวกับพระองค์ขึ้นซักหนึ่งวง เพื่อหากซักวันหนึ่งวงดนตรีนี้ได้ไปเล่นในต่างประเทศ ก็จะเหมือนเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของพระองค์ท่านไปในต่างประเทศด้วย 

ยอดถวายสักการะ 5 วัน เฉียดแสนคน 

กระทั่งเวลา 17.00 น. สำนักพระราชวังปิดการถวายสักการะและลงนามสักการะ ในวันที่ 7 ม.ค. โดยรวบยอดผู้มาถวายสักการะจำนวนทั้งสิ้น 23,875 รายชื่อ รวม 5 วัน จำนวน 95,257 รายชื่อ สำหรับยอดเงินที่ประชาชนถวายเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำเข้าในกองทุนสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เฉพาะวันที่ 7 ม.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 520,787 บาท  

ทูต 25 ประเทศ ร่วมแสดงความอาลัย 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นับตั้งแต่เปิดถวายสักการะ ต่อเนื่องมา สำนักพระราชวังรวบรวมรายชื่อคณะทูตานุทูตที่มาร่วมลงนามสักการะแล้ว พบว่าเฉพาะวันที่ 7 ม.ค. มีบุคคลสำคัญจากต่างชาติมาร่วมลงนามสักการะมากที่สุด โดยมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 25 ประเทศ ขณะเดียวกับ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยยังแจ้งผ่านเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังด้วยว่า ในวันที่ 8 ม.ค. เวลา 09.00 น. มร.ควินทัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย จะเป็นผู้แทนอัญเชิญสาส์นแสดงความเสียพระทัยของพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ มาทูลเกล้าฯถวายอีกด้วย  

ปธน.ชิลีเทิดพระเกียรติพระพี่นางฯ

นอกจากนี้ นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้รับสาส์นจากนางมิเชล บาเชเลท เฆเรีย ประธานาธิบดี สาธารณรัฐชิลี แสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยมีใจความสำคัญว่า พสกนิกรชาวไทยและทั่วโลกต่างซาบซึ้งในพระกรณียกิจด้านการพัฒนาสังคมตลอดมา โดยชีวิตและการทรงงานของพระองค์จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นต่อไป นอกจากนี้ การจัดลงนามไว้อาลัย ถวายสักการะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศมีบุคคลสำคัญประเทศต่างๆ ร่วมลงนามไว้อาลัย เช่น นาย ซี.เอช.เอ. โฮกีโวลนิ่ง ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ นายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดาโต๊ะ ลิมจ็อก เซ็ง รัฐมนตรีคนที่ 2 กระทรวงการต่างประเทศและการค้าบรูไน

เปิดบทสวดทำนองหลวง 7 บท 

จากนั้นในช่วงเย็น ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักพระราชวัง แจ้งรายละเอียดของบทสวดที่ใช้ในการสวดพระอภิธรรมงานบำเพ็ญพระกุศลถวายพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้นิมนต์พระภิกษุจากวัดพระเชตุพนฯ วัดมหาธาตุ วัด สุทัศนเทพวราราม วัดสระเกศ วัดระฆังโฆสิตาราม วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดประยุรวงศาวาส วัดราชสิทธาราม มาในการนี้ พระอภิธรรมคัมภีร์ที่ใช้สวด เป็นบทสวดพระอภิธรรมทำนองหลวง มี 7 บท คือ 1. พระสังคิณีว่าด้วยเรื่องธรรมที่เป็นกุศลกับอกุศล 2. พระวิภังค์ ว่าด้วยเรื่องขันธ์ 5 3. พระธาตุกถา ว่าด้วยเรื่องการสงเคราะห์ธรรม 4. พระปุคคะละปัญญัติ ว่าด้วยที่ตั้งของบุคคล 5. พระกถาวัตถุ ว่าด้วยความจริงแท้ 6. พระยะมะกะ ว่าด้วยธรรมที่เป็นคู่ 7. พระมหาปัฏฐาน ว่าด้วยที่ตั้งใหญ่ สำหรับพระคัมภีร์ทั้ง 7 บท จะใช้สวดตั้งแต่เวลา 07.00-24.00 น. ตลอดกาลพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพทั้ง 7 วัน สำหรับบทสวดทั้งหมด เป็นบทสวดที่สืบเนื่องมาจากครั้งพุทธกาล โดยพระพุทธเจ้า ได้ยกมาแสดงธรรม เมื่อตอนเสด็จไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมทั้งเหล่าเทวดาทุกชนชั้นที่พากันมาฟังธรรม ทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลายได้บรรลุธรรมพร้อมกัน มีพระโสดาบันเป็นเบื้องต่ำ และอนาคามีเป็นเบื้องสูง พุทธมารดาทรงจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ ชั้นสูงกว่าดาวดึงส์ ใช้เวลาในการแสดง 3 เดือน ปัจจุบันพระสงฆ์ใช้ธรรมะหมวดพระอภิธรรมเป็นบทสวด เนื่องในการสวดพระอภิธรรมศพ  



เผยแบบพระเมรุใหม่เสร็จแล้ว

ส่วนความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุ ที่จะใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพฯ โดยในส่วนของ วธ. จะเสนอความคืบหน้า และขั้นตอนการทำงานของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะกรมศิลปากร ในเรื่องการออกแบบร่างพระเมรุ การอัญเชิญพระเวชยันตราชรถ และราชรถน้อย ที่จะนำออกมาทำความสะอาดและเตรียมความพร้อมในการใช้งาน เป็นต้น รวมทั้งขณะนี้ทราบว่า น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบร่างพระเมรุของกรมศิลปากร ได้ออกแบบร่างพระเมรุเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยจะนำเสนอต่อ ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระศพฯ เพื่อให้รัฐบาลทำหนังสือทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อทรงมีพระราช วินิจฉัยต่อไป 

สั่งเร่งบูรณะและซ่อมราชรถ

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้หารือร่วมกับท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ภายหลังจากเข้าเฝ้าฯที่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งท่านผู้หญิงบุตรีได้ย้ำว่า วธ.ควรอัญเชิญราชรถ ประกอบด้วย พระเวชยันตราชรถและราชรถน้อย และพระมหาพิชัยราชรถ ที่จะใช้ในพระราชพิธีเคลื่อนพระศพฯ โดยจะต้องเร่งปรับปรุงซ่อมแซมและทำความสะอาดพระเวชยันตราชรถและราชรถน้อยให้เรียบร้อย จากนั้นควรอัญเชิญออกมาทดลองเคลื่อนขบวนจากพระบรมมหาราชวังไปยังสนามหลวงอย่างน้อย 2 รอบ ซึ่งขณะนี้พระเวชยันตราชรถและราชรถน้อย รวมถึงยานมาศ 3 คานหามนั้น ได้รับการจัดเก็บไว้ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ดังนั้น จะต้องประสานไปยังกรมศิลปากรระดมทหารช่างมาซ่อมแซมล้อและโครงสร้างของพระเวชยันตราชรถและราชรถน้อย ส่วนกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ จะเร่งดำเนินการทำความสะอาดและซ่อมแซมลวดลายต่างๆ เนื่องจากมีขั้นตอนการทำงานที่ละเอียดต้องใช้เวลาพอสมควร

รอโปรดเกล้าฯ แบบพระเมรุ

ด้าน น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะประธานคณะทำงานในการจัดสร้างพระเมรุของกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ขณะนี้แบบร่างพระเมรุได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระราชวินิจฉัยแบบร่างดังกล่าวต่อไป 

คาดใช้งบสร้างพระเมรุ 200 ล. 

ส่วนนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ได้นำรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาเป็นเกณฑ์เตรียมงบประมาณในการจัดสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เพื่อนำเสนอต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ โดยที่ประชุมเห็นว่า การก่อสร้างพระเมรุ และอาคารโดยรอบ อาทิ พระเมรุ พระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน หอเปลื้อง ทับเกษตร ทิม ห้องสุขา พลับพลายกสนามหลวง พลับพลายกหน้าพระที่นั่งสุธไธสวรรค์ พลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนฯ โรงโขน โรงหนังใหญ่ โรงละคร โรงหุ่นกระบอก จะยึดรายละเอียดงบประมาณพระเมรุมาศของสมเด็จย่า เมื่อปี 2539 ที่ใช้งบประมาณ 165 ล้านบาทเป็นเกณฑ์ โดยพระเมรุของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 150-200 ล้านบาท รวมทั้งจะต้องอาศัยกำลังคนในการก่อสร้างประมาณ 300-400 คน ส่วนระยะเวลานั้น ถ้าเร็วสุดคาดว่าประมาณ 4 เดือน ถ้าช้าที่สุดก็ประมาณ 8 เดือน อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ให้แล้วเสร็จเมื่อใดด้วย 

เตรียมบันทึกวันแห่งประวัติศาสตร์ 

ในส่วนการเตรียมงานด้านอื่นๆนั้น นางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม ผอ.สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ได้มีการประชุมแต่งตั้งคณะทำงานในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ รวมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทำการรวบรวมเอกสารทุกประเภทเกี่ยวกับพระราชพิธีทั้งหมดล่วงหน้าแล้ว ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ บันทึกเทปโทรทัศน์ เอกสารกำหนดการจากสำนักพระราชวัง ตั้งแต่แถลงการณ์สำนักพระราชวังในช่วงประชวร ที่ โรงพยาบาลศิริราช จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ ตลอดจนพระราชพิธีพระศพ พระเมรุ การจัดขบวนเคลื่อนพระศพ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ จากนั้น ทางสำนักหอจดหมายเหตุฯ จะรวบรวมให้เป็นรูปเล่ม แบ่งเป็นบทๆ ตั้งแต่พระประวัติ พระกรณียกิจ พระราชพิธีพระศพ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ เพื่อบันทึกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป ส่วนการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการจัดทำจดหมายเหตุ แห่งชาติ เกี่ยวกับงานพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ อย่างเป็นทางการนั้น คงต้องรอให้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพฯ ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ก่อน 

จัดแสดงหนังสือพระนิพนธ์ 

ด้านการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องราวที่เกี่ยวกับพระกรณียกิจของพระองค์นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานในวันเดียวกัน ที่หอสมุดแห่งชาติ มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนาฯ ณ บริเวณชั้นสองของหอสมุดแห่งชาติ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้มาใช้บริการหอสมุดแห่งชาติได้สักการะพระฉายาลักษณ์ และร่วมลงนามสักการะเพื่อเป็นการไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ ซึ่งก็มีผู้มาลงนามสักการะนับพันคน ทั้งนี้ นางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน รักษาการ ผอ. สำนักหอสมุด แห่งชาติ เปิดเผยว่า นิทรรศการดังกล่าว เกี่ยวกับหนังสือพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ มีทั้งหมด 25 เล่ม แต่ทางหอสมุดแห่งชาติมีอยู่ 24 เล่ม อีกเล่มหนึ่งเป็นพระนิพนธ์ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งกำลังหามาให้ครบแต่คงต้องใช้เวลา สำหรับหนังสือพระนิพนธ์ทุกเล่มมีลักษณะเด่นและมีคนสนใจมากพอๆกัน แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดคือ นิทานสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นพระนิพนธ์แปลจากหนังสือฝรั่งเมื่อครั้งมีพระชนมายุ 9 พรรษา มีทั้งหมด 12 เรื่อง และทรงแต่งเพิ่มเองอีก 1 เรื่อง ชื่อพระอุทุมชุมสาย มีเนื้อหารวมเป็น 13 เรื่อง โดยจะจัดนิทรรศการดังกล่าวไปจนถึง 100 วัน 

คนแห่รับหนังสือ “สถิต ณ ดวงใจ” 

อีกด้านหนึ่งที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม. มีประชาชนนับพันคนมาติดต่อขอรับหนังสือ “สถิต ณ ดวงใจ” ซึ่งเป็นหนังสือที่ กทม.จัดทำเป็นที่ระลึกแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ กทม.อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่จัดงานถวายอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ซึ่งมีกำหนดจะเปิดงานในช่วงเย็นวันเดียวกัน และไม่มีผู้ใดให้รายละเอียดได้ สร้างความผิดหวังให้ประชาชนไปตามๆ กัน ขณะเดียวกันในช่วงสายมีประชาชนมาสมทบเพิ่มแต่ต้องยืนรอกลางแดดและหลายคนเริ่มต่อว่าถึงความขลุกขลัก พร้อมตั้งข้อสังเกตเรื่องที่ กทม.ไม่พิมพ์ หนังสือให้แล้วเสร็จ ทั้งที่ กทม.ออกข่าวว่าพร้อมทุกอย่างแต่กลับทำให้เสียเวลามารอหลายชั่วโมง ซึ่งต่อมานายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.เดินทางลงไปดูความเรียบร้อยจึงได้สั่งให้นำคูปองมาแจกให้ประชาชนที่มารอคอยและนัดให้มารับหนังสือในเย็นวันเดียวกันโดย กทม. พร้อมจะแจกจ่ายในเพียง 2,000 เล่ม เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดพิมพ์

“อภิรักษ์” สั่งพิมพ์อีก 5 หมื่นเล่ม

นายอภิรักษ์กล่าวอีกว่า กทม.สั่งพิมพ์หนังสือสถิต ณ ดวงใจ ลอตแรก 50,000 เล่ม แต่ประชาชนให้ ความสนใจมากเนื่องจากต้องการเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่าน จึงได้สั่งพิมพ์เพิ่มลอตที่ 2 อีก 50,000 เล่ม คาดว่าจะเพียงพอที่จะแจกจ่ายแก่ประชาชน แต่ถ้าหากยังไม่เพียงพอก็จะพิจารณาจัดทำในรูปของซีดีต่อไป ขณะเดียวกันกิจกรรมภายในงานนิทรรศการหน้าศาลาว่าการ กทม.นั้นทุกๆวันเสาร์อาทิตย์จะจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เช่น การบรรเลงดนตรีคลาสสิกที่พระองค์ ชื่นชอบมาแสดงให้ประชาชนดู ขณะเดียวกัน กทม.จะปรับแต่งพื้นที่โดยรอบพระตำหนักเลอดิส ซอยสุขุมวิท 43 ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของพระองค์ท่านให้สะอาดสวยงามพร้อมตกแต่งด้วยกล้วยไม้ที่ให้ดอกสีขาว

กศน.จัดนิทรรศการร่วมไว้อาลัย 

ด้าน นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน กล่าวถึงการจัดพิธีไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ว่า สำนักบริหารงาน การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ได้สั่งการให้สถานศึกษา หน่วยงานในสังกัด กศน. ทุกแห่ง จัดสถานที่ให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ร่วมถวายสักการะและลงนามถวายไว้อาลัยรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันใหญ่ หลวง ที่ทรงมีต่อวงการการศึกษาและพสกนิกรชาวไทยตลอดพระชนม์ชีพ นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากห้องสมุดประชาชนทุกแห่ง จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระกรณียกิจในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ กศน. จัดแสดงหนังสือพระนิพนธ์ของพระองค์ท่าน ให้ศูนย์การเรียนชุมชนตั้งพระฉายาลักษณ์ หรือพระสาทิสลักษณ์ จัดบอร์ดนิทรรศการ พระประวัติและพระกรณียกิจ และดำเนินการตามที่เห็นสมควร อาทิ การผูกผ้าขาว-ดำ ไว้ทุกข์ในบริเวณสถานศึกษา และการทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ศูนย์ กศน.จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลทำบุญเลี้ยงพระ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ณ ชุมชนการเรียนรู้ “สมเด็จย่า” บ้านสันเกี๋ยง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี 

กรมสุขภาพจิตร่วมสานต่อพระปณิธาน

ขณะที่ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่ทรงสนพระทัยสุขภาพอนามัย ทั้งเด็กที่เป็นโรคหัวใจ โรคไต รวมถึงพัฒนาการของเด็กทั้งในเด็กปกติและเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ซึ่งพระองค์ทรงเคยมีพระดำรัสว่า “เด็ก ถ้าได้รับการดูแลตั้งแต่แรก ก็จะเป็นต้นทุนที่ดีของเขาต่อไป” ดังนั้น กรมสุขภาพจิต จึงจะมอบของขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปี 2551 ให้กับพ่อแม่ของเด็กเพื่อนำของขวัญนี้ใช้พัฒนาไอคิว อีคิวดูแลลูกโดยตรง โดยได้พัฒนารูปแบบใหม่ของเทคโนโลยี การพัฒนาเด็กไทยที่สกัดจากองค์ความรู้ที่มีอยู่ ทั้งหมด 4 ชิ้น 1. อี-เลิร์นนิ่ง เป็นเทคโนโลยีสำหรับพ่อแม่ที่จะเข้าใจลูก ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยเข้าใจง่าย 2. อี-การ์ด การ์ดอวยพร สร้างความสัมพันธ์และสร้างการสื่อสารระหว่างครอบครัว 3. ชุดความรู้ เพื่อพัฒนาความฉลาด 2 ด้านของมนุษย์เวอร์ชั่น 2 และ 4. แบบประเมินอีคิว ออนไลน์ ซึ่งสามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดได้ที่ www.iqeqdekthai.com   

รพ.สงฆ์จัดสวดพระพุทธมนต์ถวาย

ส่วน นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันสิ้นพระชนม์ครบ 7 วัน ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ในเวลา 13.45 น. วันที่ 9 ม.ค. ณ หอฉัน รพ.สงฆ์ โดยนิมนต์ พระพุทธวรญาณ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นประธานสวดพระพุทธมนต์พร้อมด้วยพระสงฆ์รวมทั้งสิ้น 10 รูป ทั้งนี้เพราะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อกรมการแพทย์ โดยเฉพาะ รพ.สงฆ์ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ ในการก่อสร้างตึกกัลยาณิวัฒนา เพื่อผู้ป่วยโรคไต และพระภิกษุสงฆ์อาพาธด้วย

ราชทัณฑ์จะน้อมนำพระดำรัสมาใช้

นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงให้กำลังใจผู้ต้องขังในการฝึกวิชาชีพมาตลอด เคยเสด็จเยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำกลางบางขวาง และทัณฑสถานหญิงกลาง รวมทั้งทรงเซ็นเช็คของธนาคารออมสิน ซื้อผลงานผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ หลังกรมราชทัณฑ์จัดถวาย แต่พระองค์ทรงห่วงใยว่าจะทำให้ผู้ต้องขังขาดรายได้ กรมราชทัณฑ์จึงนำเงินไปจ่ายค่าผลิตภัณฑ์ชิ้นดังกล่าวแทน ก่อนนำเช็คฉบับนั้นเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ของกรมราชทัณฑ์ และทอดพระเนตรผู้ต้องขังขับร้องประสานเสียง ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรม ดังนั้นเพื่อเป็นการสำนึกในพระกรุณาธิคุณ กรมราชทัณฑ์ได้ให้เรือนจำ 139 แห่งทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพร้อมให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และผู้ต้องขังร่วมกันถวายสักการะพระฉายาลักษณ์และลงนามสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ก่อนรวบรวมรายชื่อให้กรมราชทัณฑ์จัดส่งไปยังสำนักพระ ราชวังต่อไป ขณะเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ได้ทำหนังสือถึงสำนักพระราชวัง ขอร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และบำเพ็ญกุศลถวายพระศพอีกด้วย นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์จะน้อมนำพระดำรัสของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ รวบรวมเป็นเอกสาร พร้อมจัดส่งให้เรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศ นำไปดำเนินการในการดูแลผู้ต้องขังตามความห่วงใยของพระองค์ 

กำแพงเพชรแห่ทำบุญตักบาตร 

สำหรับบรรยากาศการแสดงความไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ในต่างจังหวัด ข้าราชการและประชาชนต่างก็แต่งชุดไว้ทุกข์ดำ มาลงนามไว้อาลัยตามสถานที่ราชการต่างๆ ขณะที่บางแห่งก็จัดให้มีการทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระกุศล ในวาระสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ สิ้นพระชนม์จะครบ 7 วัน โดยใน จ.กำแพงเพชร ประชาชนแต่งชุดดำนำข้าวปลาอาหารไปทำบุญตักบาตรตามวัดมากกว่าช่วงปกติทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์ท่าน โดยประชาชนที่ไปทำบุญยังไม่สร่างจากความโศกเศร้า ส่วนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร นายจุลพันธ์ ทับทิม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าฝ่าย ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้าง พร้อมใจกันแต่งกายชุดดำไว้ทุกข์ ร่วมลงนามถวายอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ต่อพระฉายาลักษณ์ พร้อมกับยืนยันจะบำบัดทุกข์บำรุงสุขตามปณิธานของพระองค์ที่ให้ไว้เป็นแบบ อย่าง เพื่อสนองพระกรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อประชาราษฎร์ทั่วทั้งแผ่นดิน  

ตาคลีทำบุญ 7 วันพระพี่นางฯ

นายเสน่ห์ คงแป้น นายอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เผยว่า ในวันที่ 8 ม.ค. ข้าราชการตาคลีทุกหมู่เหล่า รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกตำบลหมู่บ้าน อบต.ทุกแห่ง และเทศบาลเมืองตาคลี เทศบาลตำบลช่องแค รวม 108 หน่วยงาน กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศล อุทิศถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ซึ่งสิ้นพระชนม์ โดยทำบุญครบรอบ 7 วัน ขึ้นที่ศาลาประชาคมอำเภอตาคลี เริ่มเวลา 09.00 น. นิมนต์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ 10 รูปประกอบพิธี

นครพนมขอเอกชนงดโชว์หวือ

ขณะที่บรรยากาศการไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่จังหวัดนครพนม นอกจากประชาชนพร้อมใจสวมชุดสีดำกันทั้งเมืองแล้ว หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ยังจัดตกแต่งพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ไว้บริเวณด้านหน้าหน่วยงาน พร้อมประดับตกแต่งผ้าริ้วสีขาวดำไว้รอบหน่วยงานเพื่อเป็นการไว้อาลัย ด้านนายบุญสนอง บุญมี ผวจ.นครพนม กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ และผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกแห่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้งดจัดแสดงมหรสพ งานรื่นเริงทุกประเภทในช่วงไว้อาลัย โดยเฉพาะสถานบันเทิงประเภทดิสโก้เธค ผับ ไม่ให้มีการแสดงรื่นเริงประเภทเต้นโชว์ของสาวโคโยตี้ ซึ่งทางสถานบริการทุกแห่งได้ให้ความมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ก็ให้ฝ่ายปกครองออกไปตรวจสอบขอความร่วมมืออย่างเข้มงวด แต่หากมีแห่งไหนไม่ให้ ความร่วมมือ อาจส่งผลถึงการขอต่อใบอนุญาตให้บริการ  

มทส.นำนักกีฬาพิการร่วมไว้อาลัย

ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะผู้ว่าการหมู่บ้านนักกีฬา การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 20-26 ม.ค. 2551 ได้แจ้งว่า นักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์จะเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ 15 นับจากวันที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนาฯ สิ้นพระชนม์ ทางมหาวิทยาลัยได้จัดสถานที่ไว้ให้นักกีฬาได้ถวายสักการะและถวายความอาลัยหน้าพระฉายาลักษณ์ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาทีมชาติไทย โดยจะมีนิทรรศการพระกรณียกิจที่ทรงให้ ความช่วยเหลือผู้พิการมาเป็นเวลานาน นักกีฬาเหล่านี้จะเป็นเสมือนผู้แทนของคนพิการทั่วประเทศในการแสดงความสำนึกและน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณ ที่พระองค์ ท่านได้พระราชทานแก่ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เช่น ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระ ศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงให้ความช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ผู้พิการทางหูผ่านมูลนิธิ พอ.สว. เป็นต้น 

ปลูกไม้มงคล 84 ต้นแทนคุณ

รศ.ดร.ประสาทกล่าวอีกว่า ในตอนเย็นของวันที่ 19 ม.ค. จะมีการเชิญธงอาเซียนพาราเกมส์และธงชาติทั้ง 11 ชาติ ขึ้นสู่ยอดเสา ณ บริเวณลานแสดงศิลปวัฒนธรรมที่รู้จักกันในนามอินเตอร์โซน นอกจากนั้น ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะการเชิญตัวแทนนักกีฬาปลูกต้นไม้ยืนต้น ไม้ มงคล ทนแล้งได้ เช่น เสลา อินทนิล พะยูง สาธร ปีบทองจำนวนรวม 84 ต้น ในหมู่บ้านนักกีฬา โดยปลูกทีมละ 7 ต้น สอดคล้องพระชนมายุ 7 รอบนักษัตร ทั้งหมด 12 ประเทศ สอดคล้องกับ 1 นักษัตรมี 12 ปี ได้แก่ ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 11 ประเทศ ประเทศที่ 12 คือ ประเทศจีน จะเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การจัดการแข่งขันครั้งนี้ด้วย เพื่อนำไปเป็นกรณีศึกษาการจัดการแข่งขันปักกิ่งพาราลิมปิกเกมส์ ที่จะจัดในเดือน ก.ย. 2551 นี้ ตัวเลข 84=7 รอบนักษัตร คูณ 12 ปี ต่อรอบนักษัตร ถือเป็นเลขมงคลที่ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้น้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณและพระชนมายุของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่เสด็จสู่สวรรคาลัย ทาง มทส.จะทำทะเบียนต้นไม้เหล่านี้และรายงานการเจริญเติบโตให้ ผู้ร่วมปลูกได้ทราบทุกปี

ตชด.พระตำหนักทักษิณฯร่วมไว้อาลัย

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ ชุดดูแลพระตำหนัก กองพันพัฒนาที่ 4 ชุดทำลายวัตถุระเบิด ฉก.อโณทัย หมวดรักษาความปลอดภัยนาวิกโยธิน สถานีตำรวจภูธรตันหยง ตำรวจน้ำ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 และ 447 หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดนราธิวาส กว่า 500 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จัดพิธีถวายสักการะ และไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ด้วยความสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกรทั้งประเทศ ณ อาคารสิริกาญจนทักษิณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยพันโทวิชัย ชัยมงคล พนักงานพิเศษผู้ ดูแลพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนาฯ เมื่อครั้งตามเสด็จฯสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี มาปฏิบัติพระกรณียกิจมูลนิธิแพทย์อาสาฯ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งข้าราชบริพารในพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ต่างสำนึกในพระกรุณาธิคุณ และเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน พร้อมกันนี้จะตั้งปณิธานในการร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสนี้ด้วย

ยะลาบริจาคโลหิตถวายเป็นพระกุศล

เช่นเดียวกับที่บริเวณกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดยะลา เข้าถวายความอาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระ เจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้กล่าวว่า ในการที่ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันมาในวันนี้ก็เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ โดยข้าราชการตำรวจพร้อมใจกันร่วมลงนามเพื่อถวายความอาลัยต่อหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ และในช่วงสาย ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์วิทยาลัยสาธารณสุขจังหวัดยะลา สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลาร่วมกับโครงการนิด้าร่วมใจบริจาคโลหิต เทิดไท้องค์ราชัน และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ซึ่งมีนักศึกษาพยาบาลสาธารณสุขจังหวัดยะลา และข้าราชการร่วมบริจาคโลหิตกันเป็นจำนวนมาก 

ตัวแทนซาไกสตูลร่วมถวายสักการะ 

ที่ จ.สตูล พ.ต.อ.ถวัลย์ นคราวงศ์ ผกก.สภ.ทุ่งหว้า จ.สตูล พร้อมคณะครู ร.ร.บ้านช่องไทร อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ได้นำครอบครัว ด.ช.บิว อายุ 5 ขวบ และ ด.ช.เบียร์ อายุ 7 ขวบ นร.โรงเรียนดังกล่าว และเป็นตัวแทนเงาะป่าซาไก ใน จ.สตูล ไปร่วมลงนามถวายความอาลัย แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ฯ ที่ห้องโถงชั้นล่าง ศาลากลาง จ.สตูล สำหรับ ด.ช.เบียร์เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง   ในการประกวดภาพวาด ในงานศิลปหัตถกรรมภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากตัวแทนเงาะป่าแล้ว ยังมีนักศึกษาวิชาทหาร จาก ร.ร.ท่าแพผดุงวิทย์ อ.ท่าแพ จ.สตูล ร่วมลงนามถวายความอาลัยเช่นกัน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ขณะเดียวกันก็พบว่าตามร้านถ่ายรูปต่างๆใน จ.สตูล ได้ สั่งพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ มาวางจำหน่าย เนื่องจากมีประชาชน หน่วยงานราชการต่างๆ ต้องการนำไปสักการบูชา ซึ่งทำให้ร้านขายกรอบรูปได้รับอานิสงส์ คนแห่ไปสั่งทำกรอบกันเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน 

เด็กขาพิการซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ 

ที่ จ.พัทลุง ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการเปิดเผยจากนางไสว เนียมนำ อายุ 44 ปี มารดาของ ด.ช.วุฒิเดช เนียมนำ อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.1 ต.ชะรัด อ.กงหรา จ.พัทลุง ที่กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เพราะครอบครัวของตนได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระองค์มาตลอด เนื่องจากบุตรชายคนที่ 5 คือน้องอ๊อด หรือวุฒิเดช เนียมนำ ถูกงูกะปะกัดเมื่อปี 2539 ทำให้ต้องตัดเท้าทิ้ง จากนั้นเมื่อปี 2545 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ที่วัดถ้ำลา ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง พระองค์ทรงให้มูลนิธิขาเทียมดำเนินการจัดทำขาเทียมให้ และได้เดินทางไปเข้าเฝ้ารับพระราชทานขาเทียมต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2546 ที่มณฑลท้องสนามหลวง นับว่าเป็นพระกรุณาธิคุณที่สุดของครอบครัว และน้องอ๊อด ปัจจุบันสามารถเดินได้ตามปกติ ไปไหนมาไหนสะดวกมากยิ่งขึ้น และสามารถปั่นจักรยานไปโรงเรียนเองได้ ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลจากมูลนิธิขาเทียม ลูกคงจะไม่มีวันนี้ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์