หลังจากที่พสกนิกรไทยต้องสูญเสียสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ไปอย่างไม่มีวันกลับ ตั้งแต่ก่อนอรุณรุ่งวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพถวายพระเกียรติสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป รวมถึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ฯ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง มาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.เป็นต้นมานั้น
เปิดศูนย์ข่าวพระราชพิธีพระศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.59 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์จำนวน 8 รูป จากวัดจักรวรรดิ และวัดราชสิทธาราม ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอเฝ้ารับเสด็จ ตั้งแต่หน้าประตูวิเศษไชยศรี จนถึงทางเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาในช่วงสาย สำนักพระราชวังเปิดศูนย์ข่าวพระราชพิธีพระศพที่ห้องประชุม 1 อาคารสำนักพระราชวัง เพื่อเป็นศูนย์รวบรวมข่าวสารที่ถูกต้อง เกี่ยวข้องกับพระราชพิธีที่จะปฏิบัติทั้งหมด รวมทั้งการเสด็จฯของพระบรมวงศานุวงศ์ ในการประกอบพระราชพิธีทุกพระองค์ จนครบกำหนดการบำเพ็ญกุศล 100 วัน ทั้งนี้ นายรัตนวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจการพิเศษ สำนักพระราชวังกล่าวว่า ศูนย์ข่าวแห่งนี้จะเป็นที่ สำหรับบริการข้อมูลให้กับสื่อมวลชน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มาประสานงาน และออกข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีในแต่ละวัน จัดเตรียมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ ยังสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ของสำนักพระราชวัง www.palaces.thai.net
ในหลวง-ราชินีเสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลฯ
นอกจากนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สำนักพระราชวังแจ้งข่าวหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญ พระราชกุศลทักษิณานุประทาน 7 วัน พระราชทานพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พุทธศักราช 2551 ดังนี้ นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งบังคับบัญชาสำนักพระราชวัง รับสนองพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯสั่งว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ สิ้นพระชนม์จะบรรจบครบ 7 วัน ในวันพุธที่ 9 ม.ค. 2551 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ดังมีรายการต่อไปนี้ วันพุธที่ 9 ม.ค. 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 17.00 น. และในวันพฤหัสฯที่ 10 ม.ค. 2551 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 10.30 น.
คนยังแน่นศาลาสหทัยสมาคม
ส่วนที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนถวายสักการะพระฉายาลักษณ์ และลงนามถวายสักการะ ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 5 โดยเลื่อนการเปิดมาเป็นเวลา 07.45 น. ซึ่งตลอดทั้งวันประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันมาไม่ขาดสาย ส่งผลให้ศาลาสหทัยสมาคมดูแคบไปถนัด เนื่องจากเต็มไปด้วยประชาชนที่สวมชุดไว้ทุกข์ มาร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทั้งนี้ สำนักพระราชวังต้องจัดให้แต่ละคณะเข้ามาทีละชุด เพื่อลดความแออัดและเพื่อความเป็นระเบียบ นอกจากนี้ ยังมอบหนังสือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ในวโรกาสมหามงคลเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 6 พ.ค.2550 ซึ่งจัดพิมพ์โดยทางกระทรวงวัฒนธรรม รวมทั้งพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ให้กับประชาชนกลับไปเป็นที่ระลึกด้วย
บุคคลสำคัญพร้อมใจถวายพวงมาลา
นอกจากนี้ ตลอดทั้งวันยังมีคณะบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมถวายสักการะด้วยความภักดี พร้อมถวายพวงมาลาต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ อาทิ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.พล.1 รอ. คณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประจำคณะกรรมาธิการศาสนา จริยธรรม และวัฒนธรรม แห่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายจิรุตร์ อิศรางกูร บุตรนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองเลขาธิการพระราชวัง ถวายพวงมาลาในนามของราชสกุลอิศรางกูร นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยและคณะกรรมการบริหารพรรค นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกาและคณะผู้บริหาร
กำนัน-ผญบ.ดึง ปชช.ร่วมทำดีถวาย
นายชำนาญ ภูวิลัย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กล่าวหลังลงนามถวายสักการะว่า ทางสมาคมได้ประสานไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ ให้ร่วมกันเชิญชวนลูกบ้านไปรวมตัวกันที่วัดในหมู่บ้านเพื่อประกอบพิธีกรรมในการบำเพ็ญกุศลถวายแด่พระองค์ และร่วมกันทำความดีถวาย ซึ่งขณะนี้เริ่มต้นดำเนินการกันแล้วในหลายจุด นอกจากนี้ ยังประสานไปยังทุกตำบลหมู่บ้านให้กำนันผู้ใหญ่บ้านช่วยกันอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางมาถวายสักการะ ที่ศาลาสหทัยสมาคม และต้องเป็นผู้ประสานงานในเรื่องของการเดินทาง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
ปปช.แนะยึดแนวทางพระองค์มาปฏิบัติ
ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เดินทางมาร่วมถวายสักการะ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม และสาธารณสุข พระกรณียกิจของพระองค์นั้นซาบซึ้งอยู่ในจิตใจของพวกเราทุกคน ป.ป.ช.อยากเชิญชวนให้ประชาชนนำแนวทางที่พระองค์ปฏิบัติมายึดไว้เป็นแบบอย่าง รวมทั้งทำความดีเพื่อถวายพระองค์ด้วย
นานาประเทศร่วมไว้อาลัยไม่ขาดสาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเปิดถวายสักการะจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังคงมีเหล่าคณะทูตานุทูตจากหลายประเทศเดินทางมาลงนามสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย เริ่มจากนายลาร์ แบคสตอม เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งกล่าวภายหลังว่า รับตำแหน่งทูตอยู่ประเทศไทยมาแล้ว 3 ปี เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จบ้าง เช่น ในช่วงที่เสด็จไปทอดพระเนตรคอนเสิร์ต ส่วนตัวรู้สึกชื่นชมประทับใจในพระองค์ และในนามของรัฐบาลประชาชนชาวฟินแลนด์ ขอแสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย นอกจากนี้ ยังมีนางมาริสา หลุยส์ เฟอร์นันเดส เอกอัครราชทูตคิวบาประจำประเทศไทย นายซาริม อาซาอี คาเท็ม อัลซาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประจำประเทศไทย
ตั้งโต๊ะพิเศษรับเฉพาะคณะทูต
ช่วงบ่ายได้มีคณะทูตานุทูตและผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศทยอยลงนามถวายสักการะกันเนืองแน่น ทำให้สำนักพระราชวังจัดโต๊ะลงนามถวายสักการะสำหรับคณะทูตเป็นการเฉพาะ นอกเหนือจากโต๊ะลงนามสำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพระสงฆ์ ทำให้พื้นที่บริเวณห้องโถงกลางของศาลาสหทัยสมาคม ลดความแออัดลงไป สำหรับคณะทูตเดินทางมาในช่วงบ่าย ประกอบด้วย พลโทขะตีร์ ฮัสซัน ข่าน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ประจำประเทศไทย นายอับดัลลา อัล-ฮามาร์ เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ ประจำประเทศไทย นายโฆอาคิน มอนเตส เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐชิลี ประจำประเทศไทย นายปีเตอร์ เอส. ทีเอช. มาแรส เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย นายอีวาน โฮเทค เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็ก ประจำประเทศไทย นายเอ็ดการ์ด เทลเลส ริเบย์โร เอกอัครราชทูตบราซิล ประจำประเทศไทย นายฮาฟีส ซาเล็ม มูฮำหมัด บา-โอมาร์ เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมาน ประจำประเทศไทย นายเหอ ชางชุย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปองค์การอาหารและการเกษตร องค์การสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก นายอาโนล โอเบอร์ไบเออร์ เอกอัครราชทูตออสเตรีย ประจำประเทศไทย นายบรู๊ค แบริงตัน เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ นายยันมา เตชัน เอกอัครราชทูตเบลเยียม ประจำประเทศไทย นายโทโมโอะ โฮซูมิ ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีทูตจากประเทศอิสราเอล ศรีลังกา แกมเบีย สโลวัก ซูดาน อิตาลี เป็นต้น
ทูตสหรัฐฯทึ่งพลังคนไทยรักพระพี่นาง
ขณะเดียวกัน นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ได้เคยพูดคุยกับชาวอเมริกันและคนไทย ในประเทศสหรัฐฯ ทราบดีว่าทุกคนเสียใจกับการจากไปของพระองค์ เนื่องจากคนไทยและชาวอเมริกันเองก็ต่างมีความเคารพในราชวงศ์ของไทยทุกพระองค์ ที่ผ่านมาได้ทราบถึงพระกรณียกิจที่ทรงคุณประโยชน์ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม และทรงชื่นชอบเพลงคลาสสิก จึงไม่แปลกใจที่ทั้งคนไทยและชาวอเมริกันจะมีความรักในพระองค์ ด้านนายโลรอง บีลี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ พระองค์ท่านมีพระกรุณาธิคุณกับคนฝรั่งเศสอย่างมาก ทรงอุปถัมภ์และก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมภาษาฝรั่งเศสและฝรั่งเศสศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระเมตตาต่อเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสทุกคน
อัญเชิญพระราชสาส์นคิงลักเซมเบิร์ก
ต่อมา นายมาร์ค อุนเกอร์ฮัยเยอร์ เอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายชาร์ลส ชมิด รองหัวหน้าคณะทูตสถานเอกอัครราชทูตราชรัฐลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย มาลงนามสักการะ พร้อมถวายพระราชสาส์นจากแกรนด์ดยุกอองรี กษัตริย์แห่งลักเซมเบิร์ก มีใจความว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลไทย ตลอดจนประชาชนชาวไทย ในการจากไปของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คุณงามความดีและพระเกียรติคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ ที่ทำให้กับประชาชนชาวไทยอย่างมากมาย จะถูกจดจำไว้ตลอดไป
พระไต้หวันสวดถวายพระกุศล
ต่อมาเวลา 13.30 น. พระเถระซินติ้ง เจ้าอาวาสวัดโฝวกวงซัน สาขาใหญ่อันดับ 3 ประเทศไต้หวัน พร้อมด้วยคณะสานุศิษย์เดินทางมาลงนามถวายสักการะ และทำพิธีสวดพระพุทธมนต์มหาปรัชญาปารมิตาสูตร ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ภายหลังทำพิธีเสร็จ พระเถระซินติ้งเปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เป็นแบบอย่างของความดี ท่านเป็นพุทธมามกะที่ดี เปรียบเหมือนเป็นพระโพธิสัตว์ของคนไทย เชื่อว่าผลบุญที่พระองค์ท่านทรงปฏิบัติมาตลอดชีวิต จะส่งให้พระองค์จุติเป็นเทวดาในสรวงสวรรค์
ธิดา ม.จ.ปิยะรังสิตซึ้งในพระเมตตา
ด้าน ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ธิดาในหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต ในฐานะกงสุลใหญ่คอสตาริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า แม้เตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อพระองค์ สิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเศร้าเสียใจ แม้พระองค์จะจากไป แต่ได้ทรงงานฝากไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานในมูลนิธิต่างๆ ตลอดจนพระนิพนธ์อีกหลายเล่มที่คนรุ่นหลังสามารถนำมาศึกษาได้ ที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่ได้เคยถวายงาน พระองค์โดยตรง แต่ก็ทรงมีเมตตากับครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่หม่อมเจ้าปิยะรังสิต ท่านพ่อของตน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยา ณิวัฒนาฯ ก็ทรงเขียนคำในหนังสือที่ระลึกในงานศพ หลังจากนั้น ตนมีโอกาสเขียนหนังสือของตัวเองอยู่ 3 เล่ม ทุกเล่มพระองค์ก็จะทรงเขียนคำนำให้ โดยเฉพาะที่ประทับใจมากที่สุด คือเล่มสุดท้ายที่เขียนนั้น พระองค์ทรงตรวจทานคำผิดให้ด้วย จึงถือเป็นเจ้านายที่มีพระกรุณาธิคุณกับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพระกรณียกิจที่ผ่านมานั้น เห็นชัดว่า ทรงมีความเมตตากับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนธรรมดา หรือว่าใครก็ตาม จะได้รับพระเมตตาเสมอเหมือนกันหมด
ศิลปินดาราปลาบปลื้มพระกรุณาธิคุณ
จากนั้นมีคณะศิลปินดาราจากบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อาทิ นิโคล และจีระศักดิ์ ปานพุ่ม แหวน-ธิติมา สุตสุนทร ไมค์ ภิรมย์พร ต่าย-อรทัย ดาบคำ อู๋-ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เป็นต้น มาร่วมถวายสักการะ โดยนิโคล และจีระศักดิ์ ปานพุ่ม กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวการสิ้นพระชนม์รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากเคยถวายงานรับใช้ภายใต้โครงการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มเป็นที่สุด เพราะตลอดเวลาพระองค์ทรงงานหนักเพื่อคนไทย พวกเรายังน้อมรำลึกถึงพระองค์เสมอ และจะนำแนวคิดวิธีการทรงงานของพระองค์มาเป็นแบบ อย่างในการทำงานของพวกเราต่อไป
วงการดนตรีคลาสสิกสูญเสียยิ่งใหญ่
เช่นเดียวกับ นายบัณฑิต อึ้งรังษี ผู้ชนะเลิศการแข่งขันวาทยากรระดับโลก กล่าวว่า การสิ้นพระชนม์ ของพระองค์ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการเพลงคลาสสิก สมัยที่ตนชนะเลิศการแข่งขันวาทยากรมาใหม่ๆ เคยโปรดฯ ให้เข้าเฝ้า สิ่งที่ประทับใจคือพระองค์ ทรงไต่ถามถึงการทำงานในอาชีพนี้ โดยเฉพาะการทำงานกับคนต่างชาติ ว่ามีความยากลำบากแค่ไหน หลังจากนั้น ทรงมาดูการแสดงคอนเสิร์ตที่ตนเป็นวาทยากรรวมแล้วถึง 3 ครั้ง ยอมรับว่า จากที่ได้พูดคุยกับพระองค์แล้วรู้สึกได้ เลยว่า พระองค์มีความรู้เรื่องดนตรีคลาสสิกมาก แม้จะไม่ได้เป็นนักดนตรีอาชีพ แต่ความรู้ที่รับสั่งออกมาแสดงว่าทรงฟังดนตรีคลาสสิกและศึกษามามากพอสมควร ทั้งที่ผ่านมาทรงอุปถัมภ์ดนตรีคลาสสิกด้วยการใช้ทุนทรัพย์ ส่วนพระองค์ให้เด็กไปศึกษาต่อ เพื่อเป็นการยกระดับความรู้ในเรื่องดนตรีคลาสสิก หลังจากนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ตนจะได้สืบสานดนตรีคลาสสิกที่พระองค์รักให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด ด้วยการเตรียมจะจัดตั้งมูลนิธิเพื่อหาเครื่องดนตรีไปมอบให้กับมือเด็กกำพร้าให้มากที่สุด ให้ความทรงจำเกี่ยวกับพระองค์อยู่คู่ไปกับพวกเราคนไทยตลอดไป และตั้งใจจะตั้งวงออเคสตร้า ที่ใช้ชื่อเดียวกับพระองค์ขึ้นซักหนึ่งวง เพื่อหากซักวันหนึ่งวงดนตรีนี้ได้ไปเล่นในต่างประเทศ ก็จะเหมือนเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของพระองค์ท่านไปในต่างประเทศด้วย
ยอดถวายสักการะ 5 วัน เฉียดแสนคน
กระทั่งเวลา 17.00 น. สำนักพระราชวังปิดการถวายสักการะและลงนามสักการะ ในวันที่ 7 ม.ค. โดยรวบยอดผู้มาถวายสักการะจำนวนทั้งสิ้น 23,875 รายชื่อ รวม 5 วัน จำนวน 95,257 รายชื่อ สำหรับยอดเงินที่ประชาชนถวายเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศล ซึ่งเงินก้อนนี้จะถูกนำเข้าในกองทุนสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เฉพาะวันที่ 7 ม.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 520,787 บาท
ทูต 25 ประเทศ ร่วมแสดงความอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นับตั้งแต่เปิดถวายสักการะ ต่อเนื่องมา สำนักพระราชวังรวบรวมรายชื่อคณะทูตานุทูตที่มาร่วมลงนามสักการะแล้ว พบว่าเฉพาะวันที่ 7 ม.ค. มีบุคคลสำคัญจากต่างชาติมาร่วมลงนามสักการะมากที่สุด โดยมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 25 ประเทศ ขณะเดียวกับ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยยังแจ้งผ่านเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังด้วยว่า ในวันที่ 8 ม.ค. เวลา 09.00 น. มร.ควินทัน เควลย์ เอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย จะเป็นผู้แทนอัญเชิญสาส์นแสดงความเสียพระทัยของพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ มาทูลเกล้าฯถวายอีกด้วย
ปธน.ชิลีเทิดพระเกียรติพระพี่นางฯ
นอกจากนี้ นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้รับสาส์นจากนางมิเชล บาเชเลท เฆเรีย ประธานาธิบดี สาธารณรัฐชิลี แสดงความเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยมีใจความสำคัญว่า พสกนิกรชาวไทยและทั่วโลกต่างซาบซึ้งในพระกรณียกิจด้านการพัฒนาสังคมตลอดมา โดยชีวิตและการทรงงานของพระองค์จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นต่อไป นอกจากนี้ การจัดลงนามไว้อาลัย ถวายสักการะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศมีบุคคลสำคัญประเทศต่างๆ ร่วมลงนามไว้อาลัย เช่น นาย ซี.เอช.เอ. โฮกีโวลนิ่ง ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ นายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดาโต๊ะ ลิมจ็อก เซ็ง รัฐมนตรีคนที่ 2 กระทรวงการต่างประเทศและการค้าบรูไน
เปิดบทสวดทำนองหลวง 7 บท
จากนั้นในช่วงเย็น ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักพระราชวัง แจ้งรายละเอียดของบทสวดที่ใช้ในการสวดพระอภิธรรมงานบำเพ็ญพระกุศลถวายพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้นิมนต์พระภิกษุจากวัดพระเชตุพนฯ วัดมหาธาตุ วัด สุทัศนเทพวราราม วัดสระเกศ วัดระฆังโฆสิตาราม วัดจักรวรรดิราชาวาส วัดประยุรวงศาวาส วัดราชสิทธาราม มาในการนี้ พระอภิธรรมคัมภีร์ที่ใช้สวด เป็นบทสวดพระอภิธรรมทำนองหลวง มี 7 บท คือ 1. พระสังคิณีว่าด้วยเรื่องธรรมที่เป็นกุศลกับอกุศล 2. พระวิภังค์ ว่าด้วยเรื่องขันธ์ 5 3. พระธาตุกถา ว่าด้วยเรื่องการสงเคราะห์ธรรม 4. พระปุคคะละปัญญัติ ว่าด้วยที่ตั้งของบุคคล 5. พระกถาวัตถุ ว่าด้วยความจริงแท้ 6. พระยะมะกะ ว่าด้วยธรรมที่เป็นคู่ 7. พระมหาปัฏฐาน ว่าด้วยที่ตั้งใหญ่ สำหรับพระคัมภีร์ทั้ง 7 บท จะใช้สวดตั้งแต่เวลา 07.00-24.00 น. ตลอดกาลพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระศพทั้ง 7 วัน สำหรับบทสวดทั้งหมด เป็นบทสวดที่สืบเนื่องมาจากครั้งพุทธกาล โดยพระพุทธเจ้า ได้ยกมาแสดงธรรม เมื่อตอนเสด็จไปโปรดพระมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พร้อมทั้งเหล่าเทวดาทุกชนชั้นที่พากันมาฟังธรรม ทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลายได้บรรลุธรรมพร้อมกัน มีพระโสดาบันเป็นเบื้องต่ำ และอนาคามีเป็นเบื้องสูง พุทธมารดาทรงจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ ชั้นสูงกว่าดาวดึงส์ ใช้เวลาในการแสดง 3 เดือน ปัจจุบันพระสงฆ์ใช้ธรรมะหมวดพระอภิธรรมเป็นบทสวด เนื่องในการสวดพระอภิธรรมศพ