นักศึกษาจากเพอร์ดิว ยูนิเวอร์ซิตี้ สหรัฐอเมริกา
กำลังหารายได้ใหม่ด้วยการดมมูลของสัตว์เลี้ยงในปศุสัตว์ อย่างหมู วัว และไก่ เพื่อทำการวิจัยเรื่องกลิ่น โดยมี ศ.อัลเบิร์ต เฮบเบอร์ จากคณะวิศวกรรมและชีววิทยาการเกษตรเป็นหัวหน้าโครงการ
นักดมจะได้รับเงินค่าดมมูลต่างๆ ของสัตว์เหล่านี้เป็นจำนวน 30 เหรียญ หรือราว 1,000 บาท
ซึ่งการดมแต่ละครั้งก็ไม่ได้นานเท่าไหร่ นักศึกษาพอรับไหว นายอานัจ ชาร์มา นักศึกษาปริญญาโทด้านวิศวกรรมก่อสร้างกล่าว
ส่วนนายลูก้า แม็กนานี นักศึกษาชั้นปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์สัตว์ กล่าวว่า "ขี้หมูมีกลิ่นเหม็นร้ายกาจที่สุด แต่ผมชินซะแล้ว และอีกอย่างคือ นักศึกษาปริญญาโท-เอก ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่ งานที่หนักหนากว่านี้ผมก็เคยทำ"
เมื่อดมแล้ว นักศึกษาต้องให้ข้อมูลกับเฮบเบอร์เพื่อใช้ในการวิจัยเพื่อพัฒนาการลดกลิ่นจากปศุสัตว์
สำหรับการทดลองทำโดยนำอุปกรณ์ที่เรียกว่า "โอลแฟกโตมิเตอร์" มาใส่ไว้ในจมูก จากนั้นนักศึกษาจึงดมกลิ่นมูลสัตว์ที่เจือจางแล้ว เพราะเก็บมาจากอากาศในหลายๆ แห่ง หลายๆ มุมของฟาร์ม เฮบเบอร์ กล่าวว่า ยิ่งเจือจางกลิ่นจากมูลสัตว์น้อยลงเท่าไรยิ่งแสดงว่า มูลสัตว์เหม็นน้อยลง อย่างขณะนี้ถ้าเจือจางกลิ่นลง 1,000 เท่า ก็ถือว่ากลิ่นเหม็นแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ต้องเจือจางกลิ่นลงถึง 10,000 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นที่เหม็นรุนแรงจริงๆ
งานของเฮบเบอร์ยังนำไปใส่ลงในเว็บไซต์เพื่อให้เจ้าของปศุสัตว์ทราบว่า ปศุสัตว์ที่ตนเป็นเจ้าของนั้น ส่งกลิ่นไปไกลขนาดไหน
โดยคำนวณจากชนิดของสัตว์ในฟาร์ม จำนวนและมูลสัตว์ ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า ควรอาศัยอยู่ห่างจากปศุสัตว์เป็นระยะทางเท่าใด ถึงไม่มีกลิ่นมารบกวน และลดปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างเจ้าของปศุสัตว์กับเพื่อนบ้านด้วย