ประเดิมปีหนูนํ้ามันขึ้นราคา

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในระยะสั้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศจะปรับเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการมีค่าการตลาดติดลบ 1-1.50 บาทต่อลิตร ซึ่งต้องแบกรับภาระแทนประชาชน แต่สาเหตุที่ยังไม่ขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นเทศกาลปีใหม่จึงไม่ต้องการซ้ำเติมผู้บริโภค ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ดูไบในปีนี้ จะมีความผันผวนที่รุนแรง คาดว่าจะอยู่ที่ 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งต้องดูแลราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนราคาน้ำมันดิบสำเร็จรูปทั้งเบนซินและดีเซล คาดว่าจะอยู่ที่ 90-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ในระยะยาวราคาน้ำมันขายปลีกจะไม่เปลี่ยนแปลงนัก  
  
ด้านยอดขายบริษัทในปีนี้จะสูงกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 50 ที่มียอดขายรวม 1.4 ล้านล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายมากขึ้น ทั้งปิโตรเคมีและแก๊สธรรมชาติ ที่มีความต้องการใช้น้ำมันที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การขายน้ำมันเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
 
รายงานข่าวจากสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แจ้งว่า ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด ลิตรละ 40 สต. มีผลวันที่ 3 ม.ค. ส่งผลให้เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 33.29 บาท เบนซิน 91 อยู่ที่ 31.99 บาท และดีเซล 29.74 บาท ส่วนแก๊ซโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 28.49 บาท แก๊ซโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 29.29 บาท
 
นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะโรเมติกส์และการกลั่น กล่าวถึงการควบรวมระหว่างบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง และ อะโรเมติกส์ ว่า จะเป็นโรงกลั่นที่มีขนาดใหญ่สุดของไทย และอยู่ในอันดับที่ 15 ของเอเชีย มีกำลังการผลิตสูงเกิน 280,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ได้วางแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้าวงเงินรวม 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้ก่อสร้างโรงกลั่นสไตรีน โมโนโพลิเมอร์ ที่สามารถใช้น้ำมันเบนซินไปผลิตอะโรเมติกส์ได้ มีกำลังการผลิต 500,000 ตันต่อปี.