ไข่ล้นตลาดผลกรรมตกอยู่ที่แม่ไก่

นายณรงค์ เจียมใจบรรจง นายกสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่

 เปิดเผยถึงปริมาณแม่ไก่ไข่ในประเทศไทยขณะนี้ว่ามีจำนวนสูงขึ้นจากปี 2549 ที่ 45 ล้านตัว เป็น 55 ล้านตัว ในปี 2550 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 10 ล้านตัว สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการผลิตไข่ไก่ของประเทศว่าอาจจะมีปริมาณสูงถึงวันละ 30 ล้านฟอง ในขณะที่อัตราการบริโภคของคนไทยทั้งประเทศมีเพียงวันละ 25 ล้านฟอง 

“สิ่งที่น่ากังวลก็คือแนวโน้มปริมาณแม่ไก่ไข่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะทำให้ผลผลิตไข่ไก่สูงขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่กำลังซื้อและการบริโภคไม่ได้สูงขึ้นตาม รวมทั้งประเด็นสำคัญก็คือแนวโน้มต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบและค่าพลังงาน ดังนั้น ทางสมาคมฯจึงขอเตือนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกคน ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและหันมาร่วมกันหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง”
 

นายณรงค์กล่าวอีกว่า แนวทางแก้ปัญหาที่น่าจะทำได้ง่ายและเห็นผลเร็วที่สุดก็คือการลดปริมาณแม่ไก่ไข่ยืนกรง 

ต้องอาศัยความร่วมมือจากเกษตรกรทุกรายร่วมกันปลดแม่ไก่ให้เร็วขึ้น เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

ขณะเดียวกัน สมาคมฯได้ดำเนินการระบายไข่ส่วนเกินออกสู่ตลาดโลก

โดยสมาชิกผู้ผลิตไข่ไก่รายใหญ่หลายรายได้เสียสละเร่งระบายไข่ไก่ไปยังต่างประเทศ  ในจำนวนนี้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ส่งออกมากที่สุดถึง 71.78% ของจำนวนไข่ที่ส่งออกทั้งหมด รองลงไปได้แก่ บจก.ศรีวิโรจน์, เกษมชัยฟาร์ม, ชุนเซ้งฟาร์มและอื่นๆ
 
“การที่ตัวเลขไข่ส่วนเกินสูงถึงขนาดนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือภาวะราคาไข่ไก่ตกต่ำสวนทางกับต้นทุนการผลิตไข่ไก่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 2 ม.ค.นี้ ต้นทุนอยู่ที่ 2.20 บาท/ฟอง ขณะที่ราคาขายอยู่ที่ 1.70 บาท/ฟอง ดังนั้น ความร่วมมืออย่างจริงใจของเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องทุกรายจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้อุตสาหกรรมไข่ไก่อยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป”.