เสือโคร่งไทยชุมเป็นอันดับ2ของโลก

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

พร้อมกับกล่าวปาฐกถาหัวข้อ "การอนุรักษ์สัตว์ป่าในมุมมองของนายกรัฐมนตรี" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ยังคงมีการใช้ประโยชน์สัตว์ป่ากันอยู่จากกลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากการค้าสัตว์ป่า ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศที่เกิดจากความเข้าใจ และความเชื่อที่ว่าอวัยวะของสัตว์ป่าจะช่วยเรื่องสุขภาพ ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องอาศัยการวิจัย ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า แท้จริงแล้วสัตว์ป่าไม่ได้เป็นยาบำรุงสุขภาพที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อการบริโภค เพราะไม่ได้มีความแตกต่างกัน จึงอยากขอให้เน้นการวิจัยและพัฒนาทางด้านป่าไม้ สัตว์ป่าของไทย โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่เพาะเลี้ยงได้แล้ว เพื่อนำไปทดแทน และลดการล่าสัตว์จากป่าด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า สิ่งที่จะสามารถทำให้สัตว์ป่ายังคงจำนวนอยู่ได้ จำเป็นต้องดูแลเรื่องที่อยู่ของสัตว์ป่าด้วย

นั่นก็คือพื้นที่ป่า ซึ่งจากที่ได้รับรายงานจากรัฐมนตรี ทส. ทราบว่า จากข้อมูลดาวเทียม สามารถยืนยันชัดเจนว่าปัจจุบันพื้นที่ป่าของไทยยังคงมีจำนวนอยู่ประมาณ 30% จากเดิมที่เคยมีข้อวิตกว่าอาจเหลือป่าเพียง 20% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังน้อยกว่าเมื่อก่อน สมัยที่ตนทำงานคลุกคลีกับป่าที่มีอยู่ถึง 60% ทั้งนี้ อยากฝากให้มีการดูแลพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง เพราะถ้ามีป่าสัตว์ป่าก็จะมีอยู่ และเพิ่มจำนวนได้

"สิ่งที่อยากฝากให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเอาแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงชี้แนะชัดเจนในเรื่องการบริหารจัดการแหล่งดิน แหล่งน้ำว่าให้ดูตามภูมิสังคม หรือการใช้ภูมิศาสตร์บวกกับองค์ความรู้ของชาวบ้านมาใช้ แต่ที่ผ่านมามักพบว่าราชการจะเข้าไปบริหารจัดการวางแผนเอง และเคยมีตัวอย่างที่ทำแบบไม่ฟังชาวบ้านและล้มเหลวมาแล้ว รวมทั้งปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ยังมีข้อขัดแย้งทางความคิด ที่ไม่สามารถทำให้คิดเหมือนกันได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ด้านศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รักษาการรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า

ขณะนี้มีข่าวน่ายินดีว่ามีรายงานการวิจัยพบว่า ปัจจุบันเสือโคร่งในผืนป่าของไทย บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี มีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอินเดียแล้ว ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการอนุรักษ์ป่ามีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์