ข่าวร้าย!ก๊าซหุงต้มเตรียมขึ้นอีก 1 บ.หลังปีใหม่

เผย แนวโน้มราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีจะปรับขึ้นอีก 1 บาท/กิโลกรัมในช่วงหลังปีใหม่


จากราคาก๊าซแอลพีจีตลาดโลกที่ต่างจากไทยประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยราคาตลาดโลกอยู่ที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ราคาก๊าซของไทยอยู่ที่ 320 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือต่างกันมากกว่า 17 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกิดปัญหาการใช้ก๊าซผิดประเภท การติดตั้งก๊าซหุงต้มในรถยนต์ยังมีเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน แม้ราคาก๊าซจะปรับขึ้นมาเดือนธันวาคมนี้อีก 1.20 บาทต่อกิโลกรัมก็ตาม โดยมีรายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เดือนมกราคม ปีหน้าราคาก๊าซแอลพีจีจะเพิ่มอีก 1 บาทต่อกิโลกรัม


นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ไม่ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว และระบุเพียงว่าขณะนี้ราคาก๊าซหน้าโรงกลั่นขึ้นลงตามภาวะตลาดโลกแล้ว เพียงแต่รัฐบาลมีสูตรควบคุม ไม่ได้สะท้อนต้นทุนราคาตลาดโลกทั้งหมด ขณะเดียวกันได้เร่งรัดให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ขยายสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์แท็กซี่จากแอลพีจีเป็นเอ็นจีวีให้ครบ 50,000 คันภายใน 2 ปีโดยเร็ว


ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ได้เร่งสร้างสถานีบริการเอ็นจีวี มีการเจรจาเจ้าของสถานีบริการแอลพีจี

เพื่อเปลี่ยนเป็นการขยายเอ็นจีวี การสร้างสถานีขนาดใหญ่รอบเมืองและตามแนวท่อซึ่งจะมี 20-30 หัวจ่าย เติมได้ครั้งละ 40-60 คัน คาดว่าในเดือนกรกฎาคมปีหน้าปัญหาจะคลี่คลาย ทั้งเรื่องการต่อคิวยาวนานและเรื่องก๊าซหมด ขณะที่แท็กซี่เสนอว่าภาครัฐควรแยกสถานีบริการก๊าซระหว่างรถเล็กและรถบัส รถเมล์ ให้ชัดเจน เพราะรถเมล์ใช้เวลาเติมนานถึงครึ่งชั่วโมง ทำให้รถเล็กต้องเสียเวลาในการรอเติมแต่ละครั้งนาน

ส่วนที่อินโดนีเซียแม้จะเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปก แต่ในขณะนี้ต้องนำเข้าน้ำมัน และรัฐบาลยังมี นโยบายอุดหนุนราคาน้ำมัน

รัฐบาลจึงใช้นโยบายส่งเสริมให้ประชาชนเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเป็นก๊าซแอลพีจี โดยเฉพาะการปรุงอาหารและเพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซที่มากขึ้น ทางบริษัทปิโตรมินา บริษัทน้ำมัน แห่งชาติของอินโดนีเซียได้สั่งนำเข้าถังก๊าซหุงต้มจากไทย 2 ล้านถัง โดยจะเริ่มนำเข้าในเดือนมกราคม ปีหน้า สำหรับทิศทางราคาน้ำมันในสัปดาห์สุดท้ายปีนี้ก่อนเทศกาลปีใหม่ นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญราคาน้ำมันระบุว่า มีโอกาสที่ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกจะปรับขึ้น เพราะค่าการตลาดต่ำมาก แต่คงขึ้นอยู่กับผู้ค้ารายใหญ่สุด คือ ปตท.จะตัดสินใจอย่างไร

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดี โดย
หนังสือพิมพ์ไทยโพสท์ทูเดย์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์