พาณิชย์อนุมัติสินค้าขึ้นราคาอีก 2 รายการฉลองปีใหม่ ปลากระป๋องขยับอีก 2-3 บาท ขณะที่นมผงขึ้นราคาอีกรอบ 'ไลอ้อน'บ่นอุบการเมืองผันผวนทำสินค้าขายฝืด คนซื้อหมดอารมณ์
คาดปีนี้โตแค่ 4-5% ต้องโหมโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย แบะท่าปีหน้าขึ้นราคาผงซักฟอก หากปิโตรฯขึ้นราคา
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาอนุมัติให้ปรับเพิ่มราคาขายกับสินค้าอีก 2 รายการ ได้แก่ ปลาบรรจุกระป๋องแมคคาเรลในซอสมะเขือเทศ ที่ขอปรับเพิ่มราคาจากต้นทุนที่สูงขึ้นอีกกระป๋องละ 2-3 บาท และผลิตภัณฑ์นมผง ซึ่งราคานำเข้านมผงสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงตันละ 5,000 เหรียญสหรัฐ จากตันละ 2,000 เหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยการปรับขึ้นราคาสินค้าจะทำได้หลังปีใหม่ 2551 และปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งในปี 2551 กระทรวงพาณิชย์คาดการเงินเฟ้อไม่เกิน 3-3.5
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการบริษัทไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ เปิดเผยว่า
ภาพรวมตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคหรือของกินของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ในสิ้นปี 2550 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตในเชิงมูลค่าประมาณ 4-5% ซึ่งถือว่าอัตราเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่ตลาดดังกล่าวเติบโตในเชิงมูลค่าได้ประมาณ 6-7% ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการทุ่มงบประมาณกับการทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายประเภทลดแลกแจกแถม เพื่อกระตุ้นการซื้อหลังจากที่ความไม่มั่นคงทางด้านการเมืองทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่าย และหันมาออมเงินมากขึ้น ตลอดจนใช้เงินกับการซื้อสินค้าน้อยลง นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมีผลกระทบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ข้ามชาติ ที่ส่วนใหญ่จะตั้งเป้าอัตราการเติบโตตลอดปีไว้มากกว่า 10%
แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมถดถอยและทำให้ยอดขายรวมลดลง ทำให้ต้องหันมาทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อให้มียอดขายเป็นไปตามเป้า 'สำหรับภาพรวมตลาดในปี 2551 เชื่อว่าไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร สินค้าอุปโภคบริโภคก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่คนต้องกินต้องใช้ และเชื่อว่าอัตราการใช้จะไม่ลดลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนอยากใช้เงินเพิ่มหรือไม่ และในกรณีที่มีรัฐบาลใหม่แล้วแต่คนยังไม่อยากใช้เงินเหมือนเดิม โปรโมชั่นส่งเสริมการขายเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำต่อเนื่อง'
นายบุญฤทธิ์กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการของไลอ้อนปีนี้ เติบโตราว 11%
มียอดขายรวมประมาณ 6,500-7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะขยายตัว 12% ซึ่งโดยภาพรวมบริษัทมีความพอใจที่เศรษฐกิจเติบโตแบบถดถอย โดยการขยายตัวที่เกิดขึ้นมาจากการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาด อย่างไรก็ตาม ในปี 2550 บริษัทยังไม่มีการยื่นเรื่องไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่ในปี 2551 หากปิโตรเคมีวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตผงซักฟอก ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันต่อเนื่อง ไลอ้อนก็มีความจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น