ประจานรุ่นพี่ รับน้องวิปริต
ปัญหาการรับน้องใหม่ที่มักเกิดเหตุร้องเรียนกันทุกปี บางปีก็ร้ายแรงถึงขั้นนิสิตนักศึกษาน้องใหม่ทนแรงกดดันไม่ไหวต้องฆ่าตัวตาย สังเวยกิจกรรมรับน้องวิปริตของรุ่นพี่ แม้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา มีคำสั่งห้ามการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ที่ละเมิดสิทธิของรุ่นน้อง รวมทั้งห้ามจัดรับน้องใหม่นอกสถานที่ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถล้อมคอกปัญหาดังกล่าวได้ ในปีการศึกษา 2549 นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงเตรียมการที่จะแก้ไขปัญหาการรับน้องใหม่ขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ โดยจัดประชุมเตรียมยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และการประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา
ทั้งนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เมื่อตอนสายวันที่ 4 พ.ค. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว. ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุม เพื่อประสานการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ ปี 2549 ว่า กระทรวง ได้เตรียมการเรื่องการรับน้องใหม่มาก่อนหน้านี้แล้ว โดยระดมความคิดเห็นจากรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐ เอกชน และผู้นำนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ โดยออกประกาศกฎกระทรวง เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการรับน้องใหม่ที่ดี แต่ไม่ได้กำหนดบทลงโทษ ขณะที่มหาวิทยาลัยต่างๆได้กำหนดบทลงโทษนิสิตนักศึกษาที่ฝ่าฝืน ตั้งแต่พักการเรียนจนถึงให้ออก กระทรวงจึงได้ประชุมเพื่อทบทวนกฎกระทรวงและยกร่างแก้ไขโดยเพิ่มบทลงโทษในกฎกระทรวง ให้สอดคล้องกับบทลงโทษที่มหาวิทยาลัยมีอยู่ เพื่อวางมาตรการไม่ให้ การรับน้องใหม่เกิดปัญหาต่อนิสิตนักศึกษา ต้องเสียการเรียน ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลทั้งร่างกายและจิตใจ หรือถูกละเมิดทางเพศ โดยจะต้องมีการชี้แจงต่อรุ่นพี่ว่า การละเมิดสิทธิน้องใหม่ จะต้องถูกลงโทษจริงจังและเคร่งครัด โดยเฉพาะจะเพ่งเล็งไปยังรุ่นพี่ที่เป็นว้ากเกอร์มากที่สุด เพื่อลดบทบาทการคุกคามสิทธิเสรีภาพของรุ่นน้อง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่ควรได้รับการสนับสนุน หากยังมีอยู่จะต้องได้รับการประณามและประจาน ทั้งลงโทษอย่างจริงจัง
เราจะต้องลบล้างความคิดเดิมๆของรุ่นพี่ที่ว่า การรับน้องด้วยการข่มเหงน้อง จะทำให้น้องสามัคคีหรือทำเพื่อ ความสะใจ เป็นการแก้คืนเพราะเคยถูกกระทำมาก่อน โดยต้องรณรงค์รุ่นพี่ให้เคารพสิทธิผู้อื่น แม้ว่าปัญหาการรับน้อง จะมีรุ่นพี่ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพียงส่วนน้อย แต่ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศ ทำให้ สังคมไม่สบายใจ ถึงขั้นทำให้รุ่นน้องบางรายฆ่าตัวตาย ลาออก ถูกบังคับให้เข้าสู่อบายมุข เช่น การกินเหล้า รวมไปถึงการบังคับเที่ยวผู้หญิงโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ส่วนรุ่นน้องก็จะรณรงค์ให้รู้จักสิทธิของตนเอง ที่จะไม่เข้าร่วมกิจกรรมการรับน้องก็ได้ ทั้งมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อผู้บริหาร รวมไปถึงการบันทึกกิจกรรมรับน้องผ่านกล้องในโทรศัพท์มือถือไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะและสื่อมวลชน ซึ่งในปีนี้จะทำอย่างจริงจัง โดยจะตั้งศูนย์เฝ้าระวังการรับน้องและประชุมเชียร์ และเปิดเว็บไซต์รับเรื่องร้องเรียนการรับน้อง ซึ่งจะร่วมมือกับสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด หากมหาวิทยาลัยหรือคณะใดมีพฤติกรรมการรับน้องที่ไม่เหมาะสม จะเผยแพร่ปัญหาผ่านสื่อมวลชนให้มากกว่าปกติ เพื่อประจานคณะและมหาวิทยาลัยนั้นๆ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น นาย จาตุรนต์กล่าว