บุกแจ้งจับ คดีรุมตื้บ ม็อบค้าน โรงเหล็ก

บุกแจ้งจับกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกาย ชาวบ้านคัดค้านโรงงานถลุงเหล็ก ตร.บางสะพานสอบปากคำชาวบ้าน เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบ ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียด ม็อบเสื้อแดงกว่า 500 คนเตรียมรื้อศูนย์เฝ้าระวังของฝ่ายคัดค้านโรงงานถลุงเหล็ก ด้านสหวิริยาโต้ไม่รู้จักกลุ่มม็อบเสื้อแดง ยันเดินหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานถลุงเหล็ก อ้างทำตามขั้นตอนทุกอย่างถูกต้อง

จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน ปิดล้อมสำนักงานอบต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

แล้วรุมทำร้ายชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ที่เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายเกรียงไกร ใจดี นายกอบต.แม่รำพึง เพื่อคัดค้านสภาอบต.แม่รำพึงอนุมัติให้ถมดินป่าพรุแม่รำพึง เพื่อเตรียมก่อสร้างโรงงานถลุงเหล็ก และจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีชาวบ้านบาดเจ็บ 5 ราย ต้องหามส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 ธ.ค.

พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม พนักงานสอบสวน สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเข้าไปสอบปากคำชาวบ้านในพื้นที่ป่าพรุ ต.แม่รำพึง ซึ่งเป็นศูนย์เฝ้าระวังของกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง เพื่อป้องกันไม่ให้ถมป่าพรุ โดยมีชาวบ้าน 11 คนเข้าแจ้งความถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ถูกทำร้ายร่างกาย 7 คน รถยนต์ถูกทุบเสียหาย 2 คัน รถจักรยานยนต์เสียหาย 1 คัน ภายหลังรับแจ้งความ และสอบปากคำชาวบ้านผู้เสียหายแล้ว ทางตำรวจเตรียมจะออกหมายเรียกกลุ่มชายฉกรรจ์มาสอบปากคำต่อไป โดยชาวบ้านระบุว่าผู้สนับสนุนโรงงานถลุงเหล็กบางคนอยู่ในพื้นที่ และบางคนมาจากต่างถิ่น

นายวิทูรย์ บัวโรย แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวว่า

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. จะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ต.แม่รำพึงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกลุ่มผู้รับเหมาถมดินของโครงการโรงงานถลุงเหล็กเข้ามาตัดต้นไม้ในบริเวณด้านหลังศูนย์เฝ้าระวังป่าพรุที่กลุ่มคัดค้านชุมนุมอยู่ และระดมกำลังคนโดยให้สวมเสื้อแดงจำนวนกว่า 500 คน เพื่อเตรียมรื้อถอนศูนย์เฝ้าระวังของกลุ่มอนุรักษ์ที่มีประมาณ 300 คนในพื้นที่ คิดว่าเหตุการณ์รุนแรงจะไม่เกิดขึ้นเลย หากไม่มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ในวันเกิดเหตุมีตำรวจประมาณ 200 นายเข้ามาดูแล แต่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันเหตุร้าย ทั้งที่เห็นว่ากลุ่มเสื้อแดงมีอาวุธไม้ ปืน และอยู่ในสภาพมึนเมา

แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวต่อว่า

นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเสื้อแดงเตรียมไม้ตอกตะปู เหล็กแป๊บ ไม้หน้าสามไว้จำนวนมากบริเวณด้านหลังอบต.แม่รำพึง การที่ชาวบ้านถูกตีเลือดอาบต่อหน้าตำรวจ แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในการทำงานของตำรวจหรือไม่ เพราะชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงถูกตบ ถูกกระทืบ บางคนถูกตีหัวเลือดอาบ ถูกตีจนซี่โครงหัก บาดเจ็บนับ 10 คน และขณะนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ก็ยังถูกขว้างปารถเสียหาย ดังนั้นจึงถือว่าขณะนี้เป็นวาระสุดท้ายที่ชาวบ้านกับกลุ่มนายทุนจะพบกัน เพราะที่ผ่านมาเข้ามาข่มขู่ว่าจะขับไล่ชาวบ้าน ขณะที่ชาวบ้านก็ต้องป้องกันตนเอง งานนี้ชาวบ้านเตรียมบริจาคเลือดกันไว้แล้ว และในเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจะเปิดแถลงข้อเท็จจริงอีกครั้งที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ด้านนายกิตติชัย ดอกจันทร์ ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงที่ถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บ กล่าวว่า

ทราบว่าชาวบ้านที่ไปยื่นหนังสือถูกทำร้าย จึงเดินทางไป พอไปถึงหน้าอบต.แม่รำพึง ก็ถูกกลุ่มผู้สนับสนุนหลายสิบคนเข้าทำร้ายร่างกาย โดยใช้ไม้ที่มีตะปูตอกติดไว้ตีเข้าที่แขนซ้าย ชายโครงซ้าย และท้อง ต้องไปนอนร.พ.ทับสะแก 1 คืน ต่อมาแพทย์ให้เดินทางกลับมาดูอาการที่บ้าน ขณะนี้อาการกำเริบขึ้น เพราะปวดท้องมาก รวมถึงชาวบ้านหลายคนที่ถูกทำร้ายก็ยังมีอาการน่าเป็นห่วง

ขณะที่นางจินตนา แก้วขาว ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด อ.บางสะพาน กล่าวว่า

ขณะนี้มีการตัดไม้บางส่วน เพื่อเตรียมจะถมดินในพื้นที่ป่าพรุสร้างโรงถลุงเหล็ก ทั้งที่รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอยังไม่ผ่าน ดังนั้นการถมดินจะต้องรออีไอเอผ่านเสียก่อน ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯสอบถาม และได้รับคำตอบว่า การถมดินไม่ใช่เตรียมสร้างโรงถลุงเหล็ก แต่เป็นการถมเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน ทั้งที่ทุกคนรู้ดีว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างโรงถลุงเหล็กในบริเวณดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ในการประชุมสภาอบต.แม่รำพึงเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีสมาชิกอบต.บางคนไม่เห็นด้วยที่จะอนุมัติให้ถมดินในพื้นที่ป่าพรุ แต่ท้ายที่สุดอบต.ก็อนุมัติ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงงานถลุงเหล็กต่างสวมเสื้อสีแดงพากันมารวมตัวเป็นจุดๆที่ริมถนนสายบ้านกรูด-บางสะพาน บ้านผู้นำท้องถิ่นในเขตต.ธงชัย บริเวณนากุ้งร้างของอบต.แม่รำพึง และบริเวณบ้านใกล้เคียงพื้นที่ป่าพรุ ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงชุมนุมยึดพื้นที่ป่าพรุภายในและบริเวณปากทางเข้า เพื่อไม่ให้มีการถมดินในป่าพรุ โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

วันเดียวกัน นายไพโรจน์ มกร์ดารา ผอ.ฝ่ายโครง การพิเศษ เครือสหวิริยา กล่าวว่า

ไม่ทราบว่าม็อบเสื้อแดงเป็นใครมาจากไหน แต่ทราบว่าก่อนหน้านี้มีการกระทบกระทั่งกันของ 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มคัดค้านและสนับสนุน โดยฝ่ายคัดค้านพยายามจะเข้าไปฟังการประชุม เพราะมีวาระการพิจารณาขอถมพื้นที่ก่อสร้างโครงการโรงถลุงเหล็กของสหวิริยาด้วย แต่มีการพูดจายั่วยุกัน ตอบโต้กันไปมาจนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้น

"ที่ผ่านมาเครือสหวิริยายืนยันว่าได้ทำตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง แม้แต่พื้นที่ที่มีปัญหาว่าเป็นป่าพรุ ก็กันพื้นที่ออกไป จนกระทั่งการขอถมดินจำนวน 1,000 กว่าไร่ ก็ได้รับการเห็นชอบจากอบต.แม่รำพึงแล้ว ส่วนการยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2 ที่เพิ่งยื่นให้กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา กล่าวได้ว่าสหวิริยาทำตามขั้นตอน และยังคงจะเดินหน้าโครงการต่อไป" ผอ.โครงการฝ่ายพิเศษเครือสหวิริยา กล่าว