รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กทม.กล่าวถึง
ความคืบหน้าภายหลังจากที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาว่ากทม.ไม่สามารถเวนคืนที่ดินในชุมชนป้อมมหากาฬจำนวน 10 แปลงได้ หากจะนำไปก่อสร้างโครงการพิพิธภัณฑ์มีชีวิตของกทม.นั้นว่า ขณะนี้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯกทม.เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุม ประกอบด้วยสำนักการโยธา (สนย.) สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (สวท.) และสำนักพัฒนาสังคม(สพส.) พร้อมกับมอบหมายภารกิจแผนการรื้อย้ายชุมชนในพื้นที่ป้อมมหากาฬ โดยให้สพส.ไปจัดหาที่อยู่ใหม่ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
รายงานข่าวระบุว่า
จากนั้นทางมหาวิทยาลัยศิลปากรจะเข้ามาตรวจสอบสภาพชั้นดินบริเวณดังกล่าวทั้งหมด เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยขั้นตอนดังกล่าวจะใช้เวลานานประมาณ 6 เดือน ระหว่างนี้จะทยอยส่งหนังสือแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่เพื่อรับทราบ และเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป หลังจากนั้น สนย.ถึงจะสามารถเข้าพื้นที่เพื่อรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างได้ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลานานเป็นปีๆ คาดว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม.หมดวาระไปแล้วก็จะยังเดินหน้าไปไม่ถึงไหน
แผนรื้อป้อมมหากาฬทำท่าเป็นหนังยาว
รายงานข่าวกล่าวต่อว่า
สำหรับรูปแบบของพื้นที่ดังกล่าวก็จะยังคงไว้เป็นสวนสาธารณะเหมือนเดิม แต่จะมีการปรับรูปแบบของสวนโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบใหม่ ทำให้การก่อสร้างสวนสาธารณะจะต้องชะลอออกไปก่อน ทั้งนี้สำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ จำนวน 57 ครัวเรือน ขณะนี้มีชาวบ้านรวม 28 ครัวเรือนที่รับเงินและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับกทม.เรียบร้อยแล้ว เหลืออีก 29 ครัวเรือนที่บางส่วนรับเงินไปแล้วแต่ยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ บางส่วนก็โอนกรรมสิทธิ์มาแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมรับเงินไป อย่างไรก็ตาม จะได้สรุปแผนทั้งหมดนำเสนอคณะผู้บริหารอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 23 ธ.ค. เนื่องจากคณะผู้บริหารยังติดภารกิจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง