ใต้อ่วมพิษน้ำท่วมตาย 4 สูญหาย1

ศูนย์อุตุฯออกคำเตือน ภาคใต้ ระวังน้ำท่วม-ดินถล่มหนัก ยะลาอ่วมเจอฝนกระหน่ำติดต่อ กระทบพื้นที่เกษตร-ตัดถนนหลายสาย เผยมีเหยื่อเสียชีวิต 4ราย สูญหาย 1 ราย

ศูนย์อุตุนิยมภาคใต้ ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา รายงานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ว่า

พื้นที่ภาคใต้ตอนล่างยังมีร่องมรสุมพัดผ่านและมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุม ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนักและหนักมากไปถึงวันที่ 20 ธันวาคม จะทำให้น้ำท่วมและดินโคลนถล่มได้ ขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำและเชิงเขาระมัดระวังให้มาก

ขณะที่ จ.ยะลา หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน

 ทำให้น้ำบนเทือกเขาสันกาลาคีรีไหลลงแม่น้ำสายบุรี ก่อนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนบริเวณริมแม่น้ำ โดยเฉพาะที่ อ.รามัน และเหตุน้ำท่วมยังทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย โดยนางรอมละ ดีมะดี อายุ 35 ปี และนายสะมะแอ ดีมะดี อายุ 30 ปี น้องชาย กำลังยืนดูระดับน้ำบริเวณหน้าบ้านพัก พื้นที่หมู่ 4 ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน ได้ถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัด ทำให้นางรอมละ เสียชีวิต ส่วนนายสะมะแอ ยังสูญหาย

นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย

ถนนหลายสายถูกตัดขาด และเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ถนนสายจะกว๊ะ-รามัน บริเวณหัวสะพานแม่น้ำสายบุรี รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา พบความเสียหายหลายพื้นที่เช่นกัน

เช่น ตลิ่งพังที่คลองปะการัง หมู่ 2 ต.ตาเนาะแมเราะ บ้านเรือนเสียหาย 10 ครัวเรือน มีผู้สูญหาย 1 คน คือ นายกิมหมั่น แซ่จุง อายุ 53 ปี  ถนนสาย 401 ยะลา-เบตง เกิดดินโคลนถล่ม ทำให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้ล้มทับเส้นทางจนถนนได้รับความเสียหาย ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ตั้งแต่บริเวณหลัก กม.19-32 ต.ตาเนาะแมเราะ ขณะที่ อ.ธารโต มีดินถล่มลงบนถนนสายธารโต-คีรีเขต ประมาณ 4 แห่ง ในพื้นที่ ต.คีรีเขต

นายคงศักดิ์ คงปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลา กล่าวว่า

 จ.ยะลา มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 อำเภอ คือ รามัน เบตง ธารโต เมือง ยะหา กรงปินัง และบันนังสตา ซึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมีน้ำท่วมหนัก คือ รามัน กับเบตง เนื่องจาก อ.เบตง มีผลกระทบในเรื่องดินสไลด์ ส่วน อ.รามัน เป็นพื้นที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี น้ำได้เอ่อล้นสูงขึ้นประมาณ 2 เมตร
 

นายนิพนธ์ อรุณศรี วิศวกร 10 หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง จ.ยะลา กล่าวว่า

ได้ทยอยปล่อยน้ำออกจากเขื่อน เนื่องจากภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำปัตตานี ให้เฝ้าระวังปัญหาอุทกภัยในพื้นที่

ที่ จ.นราธิวาส ระดับน้ำในหลายพื้นที่ยังเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง

ประกอบด้วย อ.เมืองนราธิวาส ในพื้นที่ ต.บางปอ ต.มะนังตายอ ส่วนที่ อ.สุไหงโก-ลก ได้ท่วมพื้นที่ ต.มูโนะ ต.ปาเสมัส และน้ำจากแม่น้ำโก-ลก เอ่อล้นท่วมบ้านเรือน 3 ตำบล รวมทั้งเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขณะที่ อ.รือเสาะ เกิดน้ำป่าไหลบ่าอย่างรุนแรง ถนนในหมู่บ้านตาม ต.โคกสะตอ ต.สามัคคี ต.ลาโละ และ ต.สาวอ ขาดเป็นช่วงๆ ขณะที่ อ.แว้ง ได้อพยพราษฎรหมู่บ้านลูโละบูเก๊ะตา 18 คนใน 6 ครัวเรือนออกจากพื้นที่ ส่วนถนนที่ ต.โละจูด ต.ฆอเลาะ ต.กายูคละ ระดับน้ำยังคงท่วมสูง รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้

ขณะที่พื้นที่ อ.สุคิริน สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง

หลังดินบนภูเขาในพื้นที่โตะโมะ ต.ภูเขาทอง สไลด์ลงมาปิดทับเส้นทาง เสาไฟฟ้าหักโค่น สายโทรศัพท์ถูกตัดขาด ซึ่งนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สั่งการให้ทางหลวงชนบทและหน่วยงานในพื้นที่เร่งเข้าช่วยเหลือ พร้อมแจกถุงยังชีพและสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรผู้ประสบภัยใน 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน 260 คน 135 ครัวเรือน

นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) นราธิวาส เขต 1 เปิดเผยว่า

 ได้ประกาศปิดโรงเรียนทั้ง 25 โรง ตั้งแต่วันที่ 17-28 ธันวาคม ส่วนพื้นที่ สพท.นราธิวาส เขต 2 ได้ มีคำสั่งให้ปิดโรงเรียน 42 โรง และเขตพื้นที่ สพท.นราธิวาส เขต 3 มีคำสั่งให้ปิดโรงเรียน 3 โรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เหตุน้ำท่วม 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 7-16 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 2 ราย ที่ จ.ปัตตานี เกิดน้ำท่วมในเขต อ.เมืองปัตตานี ที่หมู่ 1 บ้านตะลุโบะ และ หมู่ 2 บ้านจางา ต.ปะกาฮารัง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปัตตานีเอ่อล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากมาจาก จ.ยะลา ทำให้บ้านเรือนและถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมหลายจุด

น.ส.พิมพ์ใจ นัยพินิจ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จ.สงขลา กล่าวว่า

ศูนย์ได้ส่งเรือท้องแบนไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.ยะลา กับ จ.นราธิวาส กว่า 10 ลำ รถบรรทุก 2 คัน เครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ขอเรือท้องแบนจากศูนย์ฯ 11 จ.สุราษฎร์ธานี มาเสริมอีก 11 ลำ พร้อมตั้งศูนย์ฉุกเฉินบริการ 24 ชั่วโมง และได้ส่งข้าวสารอาหารแห้งไปให้ความช่วยเหลือแล้ว 2,300 ชุด