ปิดฉาก9ปี เซ็นเตอร์พ้อยท์ สุขปนซึ้ง นักร้องกว่า 300 ชีวิตเศร้าร่วมร้องเพลงสั่งลา

งานอำลาเซ็นเตอร์พ้อยท์สุดอลังการ ปิดซอยสยามสแควร์ รำลึกความทรงจำตลอด 9 ปีที่ผ่านมา นักร้องกว่า 300 ชีวิตร่วมแจมขึ้นเวทีสั่งลา เหล่าเซเลบฯ ขึ้นเวทีเดินแฟชั่นโชว์ยุค1998-2007 วัยมันส์แห่ร่วมงานท่ามกลางบรรยากาศสุดสนุกปนเศร้า

เดอะ เซ็นเตอร์พ้อยท์ ออฟ สยามสแควร์ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เซ็นเตอร์พ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

สถานที่รวมวัยรุ่นและแหล่งแจ้งเกิดคนดังมากมาย เตรียมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี อำลาพื้นที่ของวัยรุ่นกับงาน 'Centerpoint Infinity Party : ก้าว...ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด' ปาร์ตี้ครั้งสุดท้ายที่รวบรวมความสำเร็จตลอด 9ปี โดยมีศิลปิน ดารา ร่วมงานกว่าร้อยชีวิต พร้อมเปิดพื้นที่ทั้งบริเวณเซ็นเตอร์พ้อยท์ สยามสแควร์ ซอย 7 เนรมิตเป็น 2 เวทีใหญ่ รวมถึงกิจกรรมชุมชนคนมีไอเดีย อินดี้ อิน ทาวน์ ที่รวบรวมผลงานทำมือจากเหล่านิสิต นักศึกษา นักเรียนมาประชันกันเปิดร้านให้เลือกซื้อ กิจกรรมทั้งหมดจะจัดขึ้นในวันศุกร์ 14 และวันเสาร์ 15 ธันวาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ธ.ค. ลานเซ็นเตอร์พ้อยท์ ออฟ สยามสแควร์ จัดกิจกรรม 'Centerpoint Infinity Party : ก้าว...ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด'

ซึ่งเป็นกิจกรรมอำลาลานกิจกรรมที่เปิดให้วัยรุ่นเข้ามาอัพเดทเทรนด์แฟชั่นใหม่ แหล่งนัดพบของวัยมันส์ และสถานที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์แจ้งเกิดคนดังมากมาย โดยได้ดำเนินการต่อเนื่องถึง 9 ปี จึงจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา เพราะทางสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ต้องการเปลี่ยนรูปแบบและพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ลานเซ็นเตอร์พ้อยท์ต้องปิดตำนานเพียงเท่านี้ กิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยปิดสยามสแควร์ซอย 7 สร้างเป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ และจัดบู๊ธกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุกและรำลึกถึงความทรงจำที่เกิดขึ้นบนลานน้ำพุแห่งนี้ โดยเฉพาะโครงการ 'อินดี้ อิน ทาวน์' รวบรวมสินค้าทำมือของนิสิต นักศึกษาและนักเรียน เปิดร้านวางขายแบกะดิน ซึ่งเป็นกิจกรรมอัพเดทเทรนด์แนวอินดี้ให้วันรุ่นได้แสดงออกและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดเซ็นเตอร์พ้อยท์

ขณะเดียวกัน ได้มีศิลปิน ดาราและนักร้อง ที่มีความประทับใจกับลานแห่งนี้เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก

เช่น ดา-เอ็นโดฟิน สาวเสียงดีขวัญใจวัยโจ๋ โบ-สุรัตนาวี สุวิพร อดีตสมาชิกวงไทรอัมพ์คิงดอม ผู้บุกเบิกเสื้อสายเดี่ยวและกางเกงขาสั้นกุดแห่งวงการแฟชั่นไทย ดีเจสนุ๊กเกอร์แห่งคลื่นร้อนฮอตเวฟ ดีเจดาด้าแห่งคลื่นบันเทิงอีเอฟเอ็ม ดีเจก้อยแห่งคลื่นอ้วนแฟตเรดิโอ โดยทั้งหมดจะร่วมกันเดินแแฟชั่น ในชื่อชุด 'Made in Centerpoint 1998-2007' ส่วนการแสดงคอนเสิร์ตบนเวที มีศิลปินจากทุกค่ายทุกสังกัดร่วม 300 ชีวิต สลับสับเปลี่ยนกันมอบความสุขบนเวทีแห่งตำนานครั้งสุดท้ายทั้ง2วัน ตั้งแต่วันที่ 14-15 ธ.ค. นำโดย ก้านคอคลับ ฮิปฮอปเมืองไทย, ไทเทเนี่ยม ฮิปฮอปโกอินเตอร์, อีทีซี, แมกซ์-รณภพ รากะรินทร์, สคลับ, กามิกาเซ่ แก๊งค์, สามหนุ่มเจเคไอ, วงลิปตา, เดอะ สเตรนเจอร์ส, โก้ มิสเตอร์แซกแมน, เกิร์ลลี่เบอร์รี่, น็อตโตะ และบอย ตูน เอเอฟ3

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นักเรียนและนักศึกษาจำนวนมากทยอยเดินทางมาร่วมงาน
 
เพราะต้องการร่วมอำลาพื้นที่แห่งความทรงจำเช่นเดียวกัน นับว่าเป็นความสุขบนความเศร้าที่จะไม่มีเวทีได้แสดงความสามารถต่ออีกแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการโศกเศร้ามาก ปลอบใจกันว่ายังมีลานกิจกรรมอื่นอีก นักเรียนชั้นม.2 อายุ 14 ปีคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ว่า รู้จักลานเซ็นเตอร์พ้อยท์ตั้งแต่อยู่ม.1 ได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคนจากลานแห่งนี้ รู้สึกเสียใจและเสียดายไม่อยากให้ปิด เพราะเป็นจุดกำเนิดสิ่งดีๆและความทรงจำดีๆมากมาย แต่ยืนยันว่าจะมาเดินสยามสแควร์ต่อไป ถึงแม้จะไม่มีเซ็นเตอร์พ้อยท์แล้ว แต่ก็มีที่อื่นให้ซื้อของได้เหมือนกัน

ด้านนายโต้ง นักศึกษารายหนึ่ง กล่าวด้วยเสียงเศร้าว่า
 
'สิ่งดีๆ ของพวกเราเกิดขึ้นที่นี่ แต่มันจะไม่จบลงเพียงเท่านั้น ถึงแม้จะไม่มีเซ็นเตอร์ แต่ความรักความห่วงใยที่ก่อตัวขึ้นที่นี่ จะไม่จบลงแค่นี้ ความประทับใจและความรู้สึกดีๆ ที่นับเป็นความทรงจำ ผมจะไม่มีวันลืม เป็นที่ที่พวกเราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะดนตรี ที่มีการจัดคอนเสิร์ตอยู่บ่อยครั้งและเป็นแนวที่ชอบ ก็คงไม่มีอีกต่อไป'

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เวลายิ่งดึก ผู้ร่วมงานก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนล้นออกมายังบริเวณถนนหน้าเซ็นเตอร์พ้อยท์ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีลานน้ำพุวัยทีนแล้ว แต่คลื่นวิทยุ 'เซ็นเตอร์พ้อยท์ 108' ยังคงมีต่อไป เพียงแค่ย้ายห้องดีเจเท่านั้น