บัตรทองล้างไตผ่านหน้าท้องฟรี ดีเดย์1มกราฯนำร่องรพ.23แห่ง

นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานการประชุมเตรียมความพร้อมระบบบริการทดแทนไตด้วยวิธีการล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่องฟรี


สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ว่า เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ปี 2548 พบผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายจำนวน 15,736 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ที่ทำการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจำนวน 6,792 ราย และผู้ป่วยรายใหม่ที่ล้างไตทางช่องท้องแบบต่อเนื่อง (Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis หรือ CAPD) จำนวน 388 ราย ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะเริ่มให้บริการในจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน 23 แห่ง ขยายเต็มพื้นที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายเก่าที่ใช้วิธีการฟอกเลือดต้องร่วมจ่ายค่าฟอกเลือดประมาณหนึ่งในสามของค่าบริการ สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่จะใช้วิธีฟอกเลือดต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. กล่าวว่า โครงการทั้งหมดมีระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2551-2560 ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งหมดโดยแยกจากงบฯเหมาจ่ายรายหัว จำนวน 88,806 ล้านบาท โดยในปี 2551 ใช้งบประมาณที่เหลือจากการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ ปี 2550 จำนวน 836 ล้านบาท ซึ่งมีเหลือเนื่องจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และราคายาที่ต่ำลงจากการบังคับใช้สิทธิโดยรัฐ และในปี 2552 จะมีการขอตั้งงบประมาณจำนวน 2,466 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาระบบริการการล้างไตผ่านหน้าท้อง ระยะแรกเน้นที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ


นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) กล่าวว่า


ปัจจัยสำคัญที่พบร่วมกับโรคไตวายเรื้อรังคือ อายุที่มากขึ้น โดยอายุที่มากขึ้นทุก 10 ปี มีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง สูง 2.99 เท่า และร้อยละ 70 ของผู้ป่วยไตวายที่กำลังรักษาตัวขณะนี้ทั่วประเทศ เกิดจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งมีผู้ป่วยประมาณ 10 ล้านคน จะต้องควบคุมอาการเพื่อไม่เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา และขณะเดียวกันต้องไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
 

สำหรับหน่วยบริการที่มีความพร้อมในปัจจุบันมี 23 แห่ง ประกอบด้วย รพ.นครพิงค์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, รพ.ลำปาง จ.ลำปาง, รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก, รพ.แม่สอด จ.ตาก, รพ.สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์, รพ.พระนครศรีอยุธยา, รพ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร, รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี, รพ.ระยอง, รพ.ฉะเชิงเทรา, รพ.ชลบุรี, รพ.อุดรธานี, รพ.มหาสารคาม, รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น, รพ.มหาราชนครราชสีมา, รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี, รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช, รพ.วชิระภูเก็ต, รพ.สุราษฎร์ธานี, รพ.สงขลานครินทร์, รพ.นพรัตน์ราชธานี และรพ.บ้านแพ้วพร้อมมิตร จ.กรุงเทพมหานคร ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. โทร.1330 หรือที่โรงพยาบาลทั้ง 23 แห่ง ตลอดเวลา


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์