พศ.ได้รับแจ้งอย่างต่อเนื่องว่า ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งกายชุดนักบวชจีนออกเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านตามข้างถนนทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้ พศ.เคยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกติดตามและจับกุมดำเนินคดีจนการกระทำดังกล่าวลดลงไปแล้ว แต่ในช่วงปี 2550 กลับมีการแจ้งเข้ามาว่ากลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้กลับมาระบาดอีกครั้ง ด้วยการแต่งกายเลียนแบบพระจีนสายมหายานและออกเรี่ยไรเงิน ซึ่งขณะนี้ พศ. และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามเฝ้าดูแลพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด จึงขอเตือนคนไทยที่ใจบุญอย่าได้หลงเชื่อและบริจาคเงินให้แก่กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ และหากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือแจ้งมายัง พศ.เพื่อดำเนินการต่อไป
"ที่ผ่านมามีการจับกุมผู้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวได้และมีการลงโทษ แต่บทลงโทษสำหรับชาวต่างชาติที่ปลอมบวชนั้น มีเพียงแค่ตักเตือนโดยแจ้งสถานทูตให้ไปตักเตือนกันเอง และส่งข้อมูลให้กระทรวงต่างประเทศงดออกวีซ่าเข้าประเทศไทย และโทษปรับตั้งแต่ 500-1,500 บาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ที่กลุ่มบุคคลนี้ได้รับวันละหลายพันจนถึงหลักหมื่น จึงยังมีคนกล้าปลอมบวชเป็นนักบวชจีนออกมาเรื่อย ๆ ขณะที่หากเป็นคนไทยปลอมบวชแต่งกายเลียนแบบนักบวชศาสนาอื่น จะเป็นการทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 208 มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 1 ปี 6 เดือน ปรับ 5,000-15,000 บาท ซึ่งรุนแรงกว่ามาก" นายกนก กล่าว
ด้าน นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.พศ. กล่าวว่า
สำหรับประเทศไทยมีพระสงฆ์จีนนิกายที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เรียกว่า คณะสงฆ์จีน ซึ่งตนรับรองได้ว่าคณะสงฆ์จีนนี้ไม่มีพฤติกรรมเรี่ยไรดังกล่าวเด็ดขาด ดังนั้น หากพบว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยแต่งกายเป็นพระสงฆ์จีนออกเรี่ยไรขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีทันที แม้แต่คณะสงฆ์จีนที่พบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวก็ได้แจ้งให้ พศ.ดำเนินการไปแล้วเช่นกัน เพราะถือว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จีนเสื่อมเสียชื่อเสียง.