อุตฯประมงเครียด จำนวนปลาทูน่าลด

แย่แล้ว จำนวนปลาทูน่าในโลกใกล้เข้าขั้นวิกฤต

บรรดาผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมปลาเขตแปซิฟิกกว่า 40 ประเทศ จึงมาร่วมประชุมที่เกาะกวม เพื่อหาทางฟื้นฟูจำนวนปลาทูน่า ที่เป็นปลาที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย นิยมเอาไปทำเป็นซูชิและบรรจุอยู่ในกระป๋อง

ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มเปิดเผยว่า

จำนวนปลาทูน่าในทะเลแปซิฟิกตอนกลางและตะวันตกนั้นไม่ใช่เข้าขั้นวิกฤต แต่เข้าขั้นวิกฤตไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเศรษฐกิจของหลายชาติในเขตแปซิฟิกขึ้นอยู่กับปลาทูน่า

นายแอนดรูว์ ไรต์ ผู้อำนวยการคณะกรรมการอนุญาตการจับปลาทูน่า เปิดเผยว่า

อุตสาหกรรม การประมงควรลดการจับปลาทู น่าสายพันธุ์ "เยลโล่ฟิน" และสายพันธุ์ "บิ๊กอาย" เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุด โดยพันธุ์ "บิ๊กอาย" ควรลดการจับ 25% "เยลโล่ฟิน" ควรลดลง 10%

ส่วนพันธุ์ "สคิปแจ๊ก" ที่พบมากที่สุด และมักนำมาทำปลาทูน่ากระป๋อง

นั้นยังมีอยู่อีกเยอะ แม้คุณค่าทางอาหารจะเทียบเท่ากับพันธุ์ "บิ๊กอาย" และ "เยลโล่ฟิน" แต่ราคาถูกกว่า เนื่องจาก "เยลโล่ฟิน" และ "บิ๊กอาย" นั้นขายให้กับตลาดระดับพรีเมียม ซึ่งพันธุ์สคิปแจ๊กนี้จะถูกดักด้วยอวนจากเรืออวนของญี่ปุ่น ไต้หวันและเกาหลีใต้

เรืออวนนี้เป็นผู้จับปลาทูน่าถึง 72% ของปลาทูน่าทั้งหมดที่จับได้ในแปซิฟิก

 โดยเรืออวนที่ใช้เครื่องมือไฮเทค สามารถจับปลาได้ถึงปีละ 10,000 ตันต่อปี และยังจับลูกปลาทูน่าพันธุ์ "เยลโล่ฟิน" และ "บิ๊กอาย" ไปด้วย ส่วนเรือประมงเบ็ดราวที่มีขอเกี่ยวนับพันตัวนั้นส่วนใหญ่จะจับ "เยลโล่ฟิน" และ "บิ๊กอาย" ที่โตเต็มที่แล้ว

กรีนพีซมีความเห็นว่า คณะกรรมการประเมินผลการจับปลาทูน่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

รวมทั้งประเมินจำนวนปลาที่ไม่ได้นำขึ้นมารายงานน้อยเกินไป และการจับปลาทูน่าในตอนกลางและตะวันตกของทะเลแปซิฟิกนั้นควรจะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ก็มีผู้แย้งว่า ข้อเสนอของกรีนพีซนั้นไม่สามารถทำได้จริง เพราะถ้าลดการจับลงถึงครึ่งหนึ่งจะเกิดผลกระทบอย่างมากทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์