บูลฟร็อก..กบยักษ์แอฟริกา

ค่านิยมของการเลี้ยงสัตว์แปลกในปัจจุบันยังไม่เสื่อมถอย เมื่อวันวานกลุ่มผู้ค้าสัตว์เลี้ยงใน ตลาดนัดจตุจักร 2 บอกกับ หลายชีวิต ว่า


...ทุกวันนี้ลูกค้ากลุ่มสัตว์แปลก หันกลับมานิยมสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อย่าง บูลฟร็อก (Bull Frog) ซึ่งเป็นกบยักษ์ใหญ่เชื้อชาติแอฟริกา ส่งผลให้ราคาค่าตัวจากเมื่อก่อนไม่กี่สตางค์ “กระโดด” ไปถึงตัวละ 1,500-2,000 บาท


“เจ้าชายกบ”
ตัวนี้พันธุ์รูปร่างหน้าตาแตกต่างไปจากกบนาอย่างเห็นได้ชัด มีสีน้ำตาลปนเขียว จุดสีน้ำตาล บริเวณส่วนหัวสีเขียวเคลือบน้ำตาล ขาทั้งสี่มีลายน้ำตาลดำ ขาหลังมีลายขวาง ลำตัวอ้วนข้างท้องมีลายน้ำตาลใต้ท้องเป็นสีขาว ผิวหนังส่วนใหญ่เรียบจะมีบ้างเป็นบางส่วนที่ขรุขระ


ความแตกต่างระหว่างตัวผู้กับตัวเมีย นอกจากอวัยวะเพศแล้วตัวผู้จะมีวงแก้วหูใหญ่กว่าตาและอยู่ทางด้านหลัง ลำตัวจะมีสีเข้มบริเวณใต้คางซึ่งมีสีจะเหลืองปนเขียวอย่างชัดเจนบริเวณใต้คางจะเป็นสีเหลือง แต่ เพศเมีย ผิวหนังจะสดใสกว่าและมีวงแก้วหูเล็กกว่าตา

บูลฟร็อกเมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดยาวประมาณ 8-10 นิ้ว จะขยายเผ่“ส่งเสียงร้องดังคล้ายวัว” าพันธุ์ได้เมื่ออายุ 12-18 เดือน ตัวผู้จะเป็นผู้ออกอาการโดย เพื่อเรียกหาคู่ หากตัวเมียที่มีความพร้อมบริเวณเอวจะพองโต ท้องอูมเมื่อพลิกด้านท้องขึ้นจะไม่เห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนัง เมื่อไข่ถูกผสมน้ำเชื้อแล้วจะฟักออกเป็นตัวภายในเวลา 3 วัน



การเลี้ยงควรเลี่ยงการให้อาหารสด เพราะจะทำให้น้ำในบ่อเน่าเสียเร็ว ส่งผลให้เกิดโรคและทำให้การเจริญเติบโตช้าลง


ลูกอ๊อดของกบบูลฟร็อกในระยะที่มีการงอก 2 ขาหลังจะมีขนาดใหญ่กว่าลูกอ๊อดของกบนา 5-7 เท่า มันจะพัฒนารูปร่างให้โตใหญ่อย่างรวดเร็วจนมันถูกขนานนามว่า “กบยักษ์” เมื่ออายุ 6-12 เดือน


ด้วยที่มันมีสรรพนามว่า กบยักษ์ จึงเป็นเหตุให้ไม่มีการวางขายกบชนิดนี้ในตลาดสดแบบทั้งตัว เพราะนอกจากจะ มีลักษณะไม่ชวนให้ซื้อหามาประกอบอาหาร แล้ว รสชาติยังสู้กบนาไม่ได้
 

และ มีข้อควรสังวรกับสัตว์พลัดถิ่นตัวนี้ คือ มันจะชอบกินลูกเขียด ลูกหนู ลูกปลา และลูกกบนา ตามที่คำโบราณว่า “สัตว์ใหญ่ไล่กินสัตว์เล็ก” ฉะนั้น ก่อนซื้อหามาเลี้ยง อยากให้แฟนคอลัมน์ “หลายชีวิต” ไตร่ตรองถามตัวเองสักนิดก่อนว่า จะเก็บไว้นานแค่ไหน...

...เพราะถ้าเห่อหลงใหลเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แล้วปล่อยคืนสู่ธรรมชาติก็หยุดนั้นจงอย่า....ไม่เช่นนั้นมันอาจกลายเป็นปัญหา อย่างหอยเชอรี่ อีกัวร์น่าและ ไอ้เจ้าชักเกอร์ ปลาเทศบาลที่กำลัง สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กรมประมงในยามนี้...!!!


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์