เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. โครงการ PISA (Programme for International Student Assessment) ซึ่งเป็นโครงการสำรวจความรู้และทักษะการเรียนของเด็กอายุ 15 ปี
ในประเทศสมาชิกขององค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) และประเทศหรือเขตเศรษฐกิจที่ไม่ใช่สมาชิก เรียกว่าประเทศร่วมโครงการ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการมาตั้งแต่ปี 2543 ได้เปิดเผยผลประเมินสมรรถนะของนักเรียนอายุ 15 ปี จาก 57 ประเทศ จำนวนกว่า 4 แสนคน พบว่า ในส่วนของประเทศไทยนักเรียนไทยมีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่มีผลการประเมินทุกด้านที่มีผลเทียมทันกับนักเรียนจากประเทศกลุ่มสมาชิก OECD นั่นคือนักเรียนจากโรงเรียนสาธิต ส่วนกลุ่มอื่นๆ อยู่ในระดับอ่อนมาก โดยเฉลี่ยคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียนไทยอยู่ในระดับที่ต้องการดูแลจากทุกฝ่ายเพื่อยกระดับอย่างเร่งด่วน
โครงการ PISA ชี้ว่าในการประเมินรอบปี 2006 หลายประเทศมีผลการประเมินสูงขึ้น นับตั้งแต่ ค.ศ.2000 เป็นต้นมา เช่น เกาหลี มีคะแนนการอ่านเพิ่มสูงขึ้นมาก และเป็นการเพิ่มให้นักเรียนกลุ่มคะแนนสูง ทำให้ช่องว่างระหว่างนักเรียนเก่งกับนักเรียนอ่อนยิ่งกว้างออกไป ขณะที่โปแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีคะแนนเพิ่มสูงขึ้นมาก และเป็นการเพิ่มในกลุ่มนักเรียนที่เป็นกลุ่มอ่อน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษาของโปแลนด์ แต่สำหรับนักเรียนไทยกลับมีคะแนนที่ลดลง ทั้งๆ ที่มีการปฏิรูปการศึกษาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เกาหลีมีคะแนนการอ่านเป็นอันดับ 1 สูงกว่าฟินแลนด์ซึ่งเคยมีคะแนนการอ่านเป็นอันดับ 1 แต่ในครั้งนี้ตกลงมาอยู่อันดับ 2 ตามด้วยจีน-ฮ่องกง แคนาดา และนิวซีแลนด์ ส่วน 5 อันดับประเทศที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ย OECD เรียงตามลำดับได้แก่ ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย โปแลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ สำหรับประเทศไทยมีคะแนนค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ย OECD โดยอยู่ในอันดับ ประมาณ 41-42 จาก 57 ประเทศ