รายงานล่าสุดของหน่วยข่าวกรองสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ว่า เป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ของประเทศ และอิหร่านจะไม่ยอมให้ชาติตะวันตกมากดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์
ในรายงานของหน่วยประเมินสถานการณ์ข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า
อิหร่านยุติความเคลื่อนไหวที่จะสร้างอาวุธปรมาณูนิวเคลียร์ไปตั้งแต่เมื่อปี 2546 แม้ว่าในปีนั้นเป็นปีที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้นำสหรัฐ กล่าวหาอิหร่านพยายามจะสร้างระเบิดนิวเคลียร์
ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด กล่าวต่อผู้สนับสนุนเรือนหมื่นในจังหวัดอิลาม
ว่า รายงานฉบับนี้พยายามเปิดทางถอยให้กับอเมริกาที่เคยกล่าวหาอิหร่าน ถือเป็นคำประกาศชัยชนะของชาวอิหร่านที่ต้านทานมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องนิวเคลียร์ ศัตรูของอิหร่านต้องการกีดกันพลังงานนิวเคลียร์ ทั้งที่พลังงานถ่านหินจะหมดลงภายใน 50 ปีข้างหน้า
ด้านบุชกล่าวแก้หน้าว่า ถึงอย่างไรอิหร่านก็ยังเป็นภัยต่อความมั่นคงของโลก
และจะยังเป็นอันตรายหากรู้วิธีผลิตอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังพูดเป็นนัยว่า ยังไม่ได้ล้มเลิกความคิดที่จะใช้กำลังทหารต่ออิหร่าน เมื่อกล่าวว่า "การใช้การทูตที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในวิธีอื่นๆ ทั้งหมดที่ให้ตัดสินใจ"
ส่วนรัฐบาลรัสเซีย พันธมิตรของอิหร่าน เห็นว่า
รายงานข่าวกรองของสหรัฐชิ้นนี้จะช่วยลดความต้องการใช้มาตรการลงโทษอิหร่านของสหประชาชาติได้ ซึ่งที่ผ่านมา รัสเซียไม่เคยพบหลักฐานว่าอิหร่านคิดจะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้าปี 2546 ที่รายงานของสหรัฐอ้างถึง
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียยังเกลี้ยกล่อมให้อิหร่านยกเลิกโครงการเพิ่มสมรรถภาพยูเรเนียมไปเลย
เพราะเป็นโครงการที่ทำให้ชาติอื่นเข้าใจผิดว่าอิหร่านจะนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์
ผู้นำอิหร่านโวชัยชนะศึกนิวเคลียร์
เอเอฟพีรายงานวันที่ 5 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจัด ผู้นำอิหร่าน กล่าวถึง