สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรลงนามรูปแบบและกลไกป้องกันโรคเอดส์ หลังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 17,000 รายต่อปี โดยกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-19 ปี กลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ลงนามความร่วมมือโครงการพัฒนากลไกและสนับสนุนการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยมีนายมีชัย วีระไวทยะ ประธานอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ร่วมเป็นพยาน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถาบันประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า
เยาวชนอายุระหว่าง 18-19 ปี ระบุว่า เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับสถิติผู้ติดเชื้อเอดส์ในประเทศไทยที่พบว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละ 17,000 คน และส่วนใหญ่คืออยู่ในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากมีพฤติรรมเสี่ยงทางเพศและการใช้ยาเสพติด อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ทางคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์มีมติอนุมัติให้แต่งตั้งอนุกรรมการกำกับการขับเคลื่อนการปฏิบัติการป้องกันโรคเอดส์ เพื่อตั้งเป้าลดการติดเชื้อรายใหม่ให้ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งอย่างจริงจัง
ด้าน นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า
สปสช. ได้ขออนุมัติงบประมาณเพื่อการรณรงค์ป้องกันเอดส์จำนวน 500 ล้านบาท เพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่และเพื่อไม่เป็นภาระงบประมาณของประเทศในระยะยาว โดยสนับสนุนกรมประชาสัมพันธ์เร่งรณรงค์และประชาสัมพันธ์เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท และ อีก 470 ล้านบาท ได้สนับสนุนเพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนการพัฒนารูปแบบและกลไกรณรงค์เพื่อป้องกันเอดส์ต่อไป