นายชาญชัย บุญฤทธิ์ไชยศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกฎหมายและคดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า ขณะนี้กฎหมายการเงินที่ ธปท.เสนอร่างแก้ไขใหม่ทั้ง 3 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน และ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยกฎหมายทั้ง 3 ฉบับได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวาระแรกแล้ว กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนต่อไป โดยคาดว่าในช่วงเดือนมกราคม 2551 นี้ จะสามารถประกาศบังคับใช้กฎหมาย ธปท.ได้ ส่วนกฎหมายสถาบันการเงินและคุ้มครองเงินฝาก น่าจะประกาศใช้ได้ในกลางปี 2551
ทั้งนี้ กฎหมายการเงินทั้ง 3 ฉบับที่ ธปท.เสนอร่างแก้ไขไปส่วนใหญ่ ทางคณะกรรมาธิการเห็นชอบ แต่อาจมีกฎหมายบางฉบับที่แก้ไขเนื้อหากฎหมายบางส่วน โดยในส่วนของกฎหมายสถาบันการเงิน ทาง สนช.ได้แก้ไขเนื้อหากฎหมายให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์เกิน 49% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมด โดยต้องขออนุมัติจาก รมว.คลังภายใต้คำแนะนำของ ธปท.“คณะกรรมาธิการได้เปิดโอกาสให้ต่างชาติถือหุ้นได้เต็ม 100% เฉพาะในกรณีที่มีการแก้ไขฐานะและการดำเนินธุรกิจเท่านั้น โดยคณะกรรมาธิการมองว่ายอมให้ต่างชาติเข้ามาฟื้นฟูฐานะดีกว่าปล่อยให้สถาบันการเงินต้องปิดกิจการลง”
นายชาญชัยกล่าวว่า สำหรับกฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝากก็ยังคงกำหนดประกันเงินฝากวงเงินเดิมคือ 1 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเศรษฐกิจมีการเติบโตได้ดี การขยายวงเงินรับประกันโดยสามารถออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพิ่มเติมวงเงินรับประกันได้ในอนาคต.