น้ำมันพืชเข้าคิวปรับขึ้นราคา แบตเตอรี่-ยางรถยนต์ร่วมวงหลังปีใหม่

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน


เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้จัดอันดับความสำคัญและความจำเป็นในการพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้า ตามที่ผู้ประกอบการยื่นขอมา จากทั้งสิ้น 13 ประเภทสินค้า จำนวน 588 รายการ เพื่อให้สินค้าที่มีความจำเป็นและมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้ปรับขึ้นราคาก่อน ส่วนสินค้าที่มีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และผู้ประกอบการยังสามารถแบกรับได้ ก็ให้ตรึงราคาขายไปก่อน

ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า จะเชิญผู้ประกอบการน้ำมันพืชบรรจุขวด แบตเตอรี่ และยางรถยนต์ เป็นรายๆ มาหารือถึงภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ทั้ง 3 กลุ่มได้ทำเรื่องขอปรับขึ้นราคาเข้ามาใหม่ ซึ่งกรมคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ปรับขึ้นราคา เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้นมาก แต่คงขอให้ขึ้นหลังปีใหม่และเป็นการ ทยอยขึ้นราคา ไม่ใช่ขึ้นเต็มที่ตามที่อนุมัติ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก


คงไม่มีทางเลี่ยงแล้วเพราะผู้ประกอบการจะขาดทุนมาก ที่สำคัญไม่อยากให้กระทบกับคุณภาพ ของสินค้า หากยังไม่ยอมให้ปรับขึ้นราคา เพราะผู้ผลิตอาจผลิตสินค้ามีคุณภาพด้อยลง เช่น อาจปรับเปลี่ยนสูตรในการผลิตใหม่เพื่อประหยัดต้นทุน ซึ่งผู้บริโภคไม่มีทางรู้ได้เลย”


นายยรรยงกล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสกักตุนสินค้าหรือขายเกินราคา รวมทั้ง


จะเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน กรมจะเพิ่มสินค้ากลุ่มพิเศษในโครงการธงฟ้าเพิ่มเติมจากสินค้าทั่วไป ได้แก่สินค้าที่ได้อนุมัติให้ปรับขึ้น ราคาและสินค้าที่ประชาชนร้องเรียนว่าปริมาณขาดแคลนและราคาสูงเกินจริง พร้อมกันนี้ยังให้เพิ่มปริมาณรถเข็นธงฟ้าที่ขายข้าวแกงจานละ 10 บาท โดยให้ประสานงานกับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เปิดโอกาสให้ครอบครัวคนงานหรือผู้ว่างงานที่มีครอบครัวทำงานในโรงงานนั้นๆ เข้าร่วมโครงการรถเข็นธงฟ้า ซึ่งจะช่วยทั้งการเพิ่มอาชีพและลดภาระค่าครองชีพ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของน้ำมันพืชบรรจุขวดนั้น ผู้ประกอบการขอปรับขึ้นประมาณ 4-5 บาท/ขวด (ลิตร) จากปัจจุบันที่ 38 บาท/ขวด เป็น 42-43 บาท/ขวด เพราะราคาน้ำมันปาล์มดิบ วัตถุดิบ หลักในการผลิตสูงขึ้นมากเป็น 30/กิโลกรัม จากปีที่ผ่านมาที่ 17-18 บาท/กิโลกรัม ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุนมาแล้ว 2 เดือน ส่วนแบตเตอรี่ มีต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยตะกั่วบริสุทธิ์ ซึ่งนำเข้า จากต่างประเทศ ราคาปรับขึ้นจาก 1,048 เหรียญสหรัฐฯ/ตันในปี 2547 เป็น 3,743 เหรียญฯ/ตันในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้น 257% และตะกั่วผสม เพิ่มขึ้นจาก 41.30 บาท/กิโลกรัม เป็น 71.70 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 73.6% ขณะที่ยางรถยนต์ ต้นทุนการผลิตคือ ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์มีราคาเพิ่มขึ้นมาก โดยยางธรรมชาติราคาในปี 2547 ราคา 46.76 บาท/กิโลกรัม แต่ปี 2550 ราคา 78.50 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 67.8% ยางสังเคราะห์ ปี 2547 ราคา 137 บาท/กิโลกรัม แต่ปีนี้ 155.6 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 12.8%.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์