นายสมิทธกล่าวด้วยว่า มีตัวเลขทางสถิติที่ชัดเจนว่าภายใน 10 ปี
หาก กทม.ยังไม่ดำเนินการอะไร กรุงเทพมหานครจะอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลถึง 2 เมตร สถานที่สำคัญๆจะจมน้ำ และถึงเวลานั้นเราจะดื่มกินน้ำสะอาดได้จากที่ไหน จะเอาเงินจากไหนมาย้ายเมืองหลวง แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่เราต้องช่วยตัวเราเองก่อน เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนี้ล้วนเกิดในประเทศที่อยู่แถบเส้นศูนย์สูตรก่อน ได้แก่ เวียดนาม และไทย ดังนั้น สิ่งที่จะป้องกันได้คือการทำเขื่อนป้องกันไว้ ล้อมรอบกรุงเทพมหานคร แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างนับแสนล้านบาท แต่ต้องทำ ถ้าหากไม่ทำอนาคตจะเสียหายหลายล้านล้านบาท วันนี้รัฐบาลสิงคโปร์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาการสร้างเขื่อนล้อมรอบเกาะสิงคโปร์แล้ว แต่สำหรับประเทศไทยยังนิ่งเฉย ไม่ให้ความสนใจในเรื่องสำคัญนี้เลย
ต่อข้อถามว่า งบประมาณนับแสนล้านบาทจะนำมาจากไหน นายสมิทธตอบว่า
ไม่ต้องถามว่าเอามาจากไหน แต่ต้องให้พูดชัดว่าต้องทำ เพราะทีสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่ใช้งบประมาณนับแสนล้านบาทยังทำมาแล้ว ทำไมเรื่องที่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจะทำไม่ได้ และการสร้างเขื่อนต้องทำตั้งแต่ช่วงลำน้ำบางปะกง เจ้าพระยา ท่าจีน มาจนถึงแม่กลอง จากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นพรรคการเมืองใดที่มีนโยบายที่จริงจังในเรื่องนี้ มัวแต่พูดเรื่องการย้ายพรรค การรวมตัวจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น
ด้านนายเสรี สุพราทิพย์ ผอ.ศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ ม.รังสิต กล่าวว่า
มีข้อเท็จจริงว่า กทม.มีการทรุดตัวของพื้นดินปีละ 4 เซนติเมตร ทั้งนี้ แนวทางการสร้างเขื่อนตนขอเสนอให้กันพื้นที่เพื่อปลูกป่าชายเลนจากริมฝั่งถึงพื้นดิน 300 เมตร ก่อนที่จะสร้างเขื่อนเพื่อเป็นแนวธรรมชาติบำบัด และต้องกันพื้นที่ส่วนดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนเพื่อใช้เป็นแนวป้องกันภัยทางธรรมชาติที่จะต้องมีขึ้นแน่ในอนาคต
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รักษาการหัวหน้ากลุ่มกรุงเทพ 50 กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเสวนาเพื่อเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่ทำวันนี้ เดี๋ยวนี้ ต่อไปวันหน้าก็อาจจะไม่มีวันได้ทำ “เรื่องกรุงเทพฯเป็นเมืองใต้บาดาลเกิดขึ้นแน่ๆใน 10 ปีข้างหน้า เราจะย้ายเมือง หลวงไปที่อื่น ไม่ใช่ทางป้องกันอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาลงทุนพัฒนากรุงเทพฯ จนกลายเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจทุกด้านไปแล้ว เป็นเมืองหลวงที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี ติดอันดับท็อปเทนด้านการท่องเที่ยว ด้านธุรกิจแฟชั่น ด้านการขนส่งทางอากาศ สนามบินสุวรรณภูมิถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นศูนย์การบินของเอเชีย ทุกอย่างได้ลงทุนที่คิดเป็นมูลค่าทางเงินมากมายนับไม่ถ้วนแล้วเราจะไม่คิดป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯหรืออย่างไร”
นายชลิตรัตน์กล่าวต่อว่า ทางกลุ่มกรุงเทพ 50 จะชูเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วน
จะรวบรวมรายชื่อของประชาชน ให้บรรดาอาสาสมัครไปพูดคุยชี้แจงกับประชาชน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาทุกแห่ง และขอให้ทุกคนร่วมลงชื่อ เพื่อให้เรื่องการแก้ไขป้องน้ำท่วมกรุงเทพฯ ที่จัดเป็นหัวข้อในการเสวนาครั้งนี้ตั้งเป็นนโยบายแห่งชาติ และส่งให้พรรคการเมืองใดที่จะขึ้นมาเป็นรัฐบาลต้องดำเนินการทำอย่างเร่งด่วน คนกรุงเทพฯจะไม่ยอมให้ทำอะไรแบบวัวหายล้อมคอกอีกต่อไปแล้ว