เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย.
ที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานปล่อยโคมลอยยี่เป็งเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นโคมลอย ขนาดยักษ์สีเหลือง ใช้กระดาษว่าว 2,008 แผ่น ต่างจากโคมลอยทั่วไปที่ใช้กระดาษว่าวเพียง 40-80 แผ่น ใช้คนปล่อยโคม 50 คน เป็นที่สนใจของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก
ขณะที่โคมเริ่มลอยขึ้นจากพื้นไม่มากนัก
มีลมกระโชกอย่างแรง ทำให้เสียทิศทางลอยไปชนเสาไฟฟ้าก่อนจะกระแทกใส่ยอดพระเจดีย์ขาว ซึ่งเป็นเจดีย์โบราณศักดิ์สิทธิ์อายุหลายร้อยปีที่อยู่ใกล้เคียง และแผ่นโคมคลุมเจดีย์ไว้ ทำให้ยอดเจดีย์รับน้ำหนักไม่ไหวหักลงมา ร.อ. หญิงเดือนเต็มดวงสั่งให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนำรถกระเช้ามาปลดโคมออกและให้รีบซ่อมยอดเจดีย์ให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งกล่าวคำขอขมาต่อองค์พระเจดีย์ขาว โดยใช้เวลาเคลื่อนย้ายออกนานร่วม 1 ชั่วโมง ส่งผลให้การจราจรติดขัดไปหมด
หลังจากนั้น ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง กล่าวว่า
เป็นอุบัติเหตุ การปล่อยโคมลอยขึ้นกับหลายปัจจัย เมื่อโดนลมแรงทำให้สุดความสามารถจะควบคุมได้ จะต้องมีพิธีขอขมาอย่างเป็นทางการ ที่ผ่านมาการปล่อยโคมไม่เคย ถูกยอดพระเจดีย์ขาว แต่ปีนี้เป็นเหตุสุดวิสัย สำหรับองค์พระเจดีย์ขาวนั้น เทศบาลนครเชียงใหม่เพิ่งถวายผ้าคลุมรอบเจดีย์ตามประเพณีที่ทำกันมานาน
ส่วนนายวัลลพ นามวงค์พรหม อนุกรรมการฝ่ายศิลปกรรมท้องถิ่น สภาวัฒนธรรมเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญพิธีกรรมล้านนา กล่าวว่า
เป็นความเชื่อของคนโบราณล้านนา เมื่อมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น ปล่อยโคมลอยยักษ์ไปโดนยอดพระเจดีย์ขาวซึ่งมีเทพรักษาอยู่ ถือว่าเป็นลางไม่ดี เป็นสิ่งบอกเหตุว่าทำไม่ถูกต้อง เหมือนไม่นับถือกัน ทำให้คนที่มีความเชื่อในเรื่องนี้หวั่นวิตกจะเกิดเหตุร้าย ผู้เกี่ยวข้องควรแก้ไขทำให้ถูกต้องตามฮีตฮอยโบราณ ขอขมาลาโทษ ที่ดีที่สุดควรบวงสรวงอย่างเป็นทางการ ต่อไป เมื่อเทศบาลฯจะทำอะไรขอให้ทำพิธีอย่างถูกต้อง ให้นึกถึงเทพยดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาบ้านเมือง
นายวัลลพกล่าวอีกว่า พระเจดีย์ขาวนั้น โบราณเรียกเจดีย์ปู่เปียง ตามตำนานเล่าว่า
พม่ามาท้าดำน้ำแข่งกัน ใครดำน้ำนานที่สุดเป็นผู้ชนะ ใครแพ้ต้องเสียบ้านเมือง ฝ่ายปู่เปียงชาวเมืองเชียงใหม่อาสาเป็นคนดำน้ำแข่งกับพม่า กระโดดลงในแม่น้ำปิงใช้ผ้าขาวม้ามัดตัวเองติดกับหลักใต้น้ำจนเสียชีวิตในน้ำ ส่วนคนพม่าโผล่ขึ้นมาก่อนเลยแพ้ ทำให้เชียงใหม่ชนะ ไม่ต้องเสียบ้านเมือง จึงได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษล้านนา และเชื่อกันว่าวิญญาณของปู่เปียงยังวนเวียนอยู่บริเวณคุ้งน้ำปิง ชาวบ้านได้สร้างพระเจดีย์ ขาวขึ้นมาเพื่อให้เป็นอนุสรณ์ของปู่เปียงเป็นที่นับถือของคนเชียงใหม่มาตลอด
ด้านการลอยกระทงในจังหวัดท่องเที่ยวเช่นที่ จ.สุโขทัย
บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ มีนักท่องเที่ยวไปร่วมงานแน่นขนัด ขณะที่ จ.ตากเปิดงานลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงริมแม่น้ำปิง ส่วนในกรุงเทพมหานครที่หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง แสดงขบวนเรือประดับไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติกว่า 20 ลำ การแสดงพื้นบ้านได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติอย่างมาก