นายกเหล่ากาชาด และสมาชิกอบต.ท่าหลวง เดินทางไปยังพื้นที่หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร วัย 12 ขวบ นร.ชั้นป.4 โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง ที่เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพึ่งพระบารมีเนื่องจากครอบครัวยากจนแร้นแค้น โดยผวจ.ได้นำน้องบุตรและครอบครัว กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะลด ละ เลิก อบายมุขทุกอย่าง และจะอุทิศตนเพื่อถวายต่อในหลวง
จากนั้น ผวจ.พิจิตรได้ทำพิธีปิดทอง เสาบ้าน ตอกหมุดไม้มงคล 9 ชนิด และยกเสาเอกเพื่อก่อสร้างบ้านหลังใหม่ นอกจากนี้ ยังได้มอบสิ่งของช่วยเหลือ รวมทั้งนำพันธุ์ปลาจาก กรมประมงไปปล่อยในสระข้างบ้าน เพื่อเอาไว้ จำหน่ายและทำอาหารเลี้ยงครอบครัว โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมเป็นสักขีพยาน สำหรับบ้านหลังใหม่นี้ สร้างอยู่ห่างจากบ้านหลังเดิมของน้องบุตรเพียง 200 เมตร ผวจ.พิจิตร กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวต้องรีบสร้างให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค.นี้ หรือวันพ่อแห่งชาติ และบ้านหลังนี้จะได้บ้านเลขที่ 9809 หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ตามหมายเลขของบ้านพระราชทานซึ่งเป็นหมายเลขเดียวทั้งหมด
ขณะที่บรรดาผู้มีจิตเมตตา
ยังโอนเงินช่วยเหลือผ่านทางบัญชีชื่อ “เงินกองทุนเด็กชายชาตรี นัดดา” ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหา ชน) สาขาพิจิตร เป็นบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 610-0-19806-1 กันอย่างไม่ขาดสาย ส่วนน้องบุตรหลังข่าวการยื่นถวายฎีกาเผยแพร่ออกไป ทำให้สื่อมวลชนหลายแขนงเดินทางมาสัมภาษณ์ ขณะที่หน่วยราชการหลายแห่งที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ ได้มารับตัวไปจากที่หน่วยงานนั้น ๆ ส่งผลให้น้องบุตรแทบไม่มีเวลาเรียนหนังสือ เช่นเดียวกับนางลมัย สังฆรินทร์ ครูประจำชั้นของน้องบุตร ที่ช่วยเหลือดูแลน้องบุตรมาตั้งแต่ต้นก็ถูกรายการทีวีติดต่อไปออกรายการ.