นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
เปิดเผยถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วง วันลอยกระทงปีนี้ว่า ประชาชนใช้เงินเฉลี่ยคนละ 820 บาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อนที่เฉลี่ย 750 บาท ทำให้โดยรวมวันลอยกระทงปีนี้มีเงินสะพัด 8,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนที่มีเงินสะพัด 7,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ถือว่าเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวแล้ว เพราะการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะราคาสินค้าต่างๆสูงขึ้น แต่ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายเหมือนเดิม ส่วนเงินที่นำมา ใช้จ่ายก็มาจากเงินออมแทนการใช้จ่ายจากเงินเดือนหรือรายได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. นี้ จะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 50,000-55,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นเดือน พ.ย. 20,000 ล้าน บาท และเดือน ธ.ค.อีก 30,000-35,000 ล้านบาท จากเงินใช้จ่ายในการเลือกตั้ง งานเฉลิมฉลองของในหลวง กีฬาซีเกมส์ การใช้จ่ายช่วงคริสต์มาสและ ปีใหม่ ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ไม่ซึมยาว แม้จะมีปัจจัยลบจากปัญหาราคาน้ำมันแพง การลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม ประกอบกับหากรัฐบาลใหม่มีนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี และเห็นผลเป็นรูปธรรม จะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัว 4.5-5%
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า
ขอให้ประชาชนทำประกันภัยไว้เพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุ การประกันอัคคีภัยและการทำประกันชีวิต หรือควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยต่างๆว่า หมดอายุหรือยัง หากใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้วควรจะรีบต่ออายุ หรือทำใหม่ เพื่อให้ได้รับความ คุ้มครองในช่วงวันลอยกระทง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่บริการจัดเรือให้ลูกค้าไปลอยกระทง ควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย และปัจจุบันกฎหมาย กำหนดให้เจ้าของเรือโดยสารทุกลำต้องทำประกันภัย ให้แก่ผู้โดยสารด้วย.