นํ้ามันแพงเรือประมงจอดเป็นสุสาน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย


กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนา “ปัญหาราคาแก๊สและน้ำมัน ใครก่อ ใครแก้” ว่า ปัจจุบันเรือประมงที่ออกหาปลานอกน่านน้ำไทยได้จอดเรือมากถึง 40,000 ลำ จากทั้งหมดที่มี 60,000 ลำ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงจนทำให้ต้นทุนสูงและประสบปัญหาขาดทุน โดยที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวถึง 200% แต่ราคาปลาสูงขึ้นเพียง 10% เท่านั้น ขณะเดียวกันพบว่ามีเจ้าของเรือบางลำต้องเอาตัวรอดโดยไปสวมทะเบียนเป็นเรือของประเทศมาเลเซียเพื่อได้เติมน้ำมันในราคาที่ถูกกว่าไทย รวมถึงการร่วมกับผู้ประกอบการมาเลเซียในการประมง อย่างไรก็ตามขณะนี้สมาคมกำลังพิจารณาที่จะจอดเรือ   แล้วทำเป็นสุสานเรือประมงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป
 



น.ส.รสนา โตสิตระกูล เลขามูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า ปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง จะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ดังนั้นหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้โดยตรง คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ควรลดกำไรลงบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของการลดราคาแก๊ส เพราะข้อมูลผลประกอบการ 9 เดือนของปี 50 บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 73,346.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากก๊าชธรรมชาติถึง 40,410 ล้านบาท ซึ่งเป็นวัตถุจากอ่าวไทยที่ไม่ได้เป็นการนำเข้า

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปีหน้าจะเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีปัจจัยจากปัญหาการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเทศที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงอย่างจีน อินเดีย และยุโรป มีการเก็งกำไรของกองทุน เป็นต้น การแก้ปัญหาที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้า เพราะว่า แก๊สและน้ำมันก็ยังขึ้นราคาไปเรื่อย จนมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 51 ราคาน้ำมันโลกอาจขยับไปถึง 150 เหรียญฯต่อบาร์เรล ดังนั้นภาครัฐ และเอกชนควรร่วมกันหามาตรการระยะยาวเพื่อเตรียมพร้อมกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานในอนาคต.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์