แฉซ้ำ นักการเมือง-นักธุรกิจ จอมลวนลามแอร์สาวบินไทย / เดลินิวส์
แฉแหลก นักการเมือง นักธุรกิจ คนใหญ่คนโต รวมหัวลวนลามแอร์โฮสเตสสาว-สจ๊วตหนุ่มการบินไทยสารพัดรูปแบบ เคยแจ้งความเรื่องก็เงียบ มูลนิธิเพื่อนหญิงแนะเจ้าจำปี ติดสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือพร้อมขึ้นบัญชีดำพวกหื่น และนำตัวมาอบรมก่อนปล่อยให้ขึ้นเครื่อง
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. นางชุดาปณี ชิบายาม่า นักศึกษาปริญญาโทโครงการสตรีศึกษา สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการศึกษา "ประสบการณ์คุกคามทางเพศจากการทำงาน กรณีศึกษาลูกเรือของ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)" ว่า จาก การศึกษาพนักงานต้อนรับหรือแอร์โฮสเตส ของบริษัทการบินไทย 50 คน พบว่า มีการคุกคาม ทางเพศในชั้น ECONOMY CLASS มากที่สุด เช่นลักษณะการสัมผัสร่างกายแบบต่าง ๆ ส่วนชั้น FIRST CLASS และ BUSINESS CLASS ส่วนใหญ่เป็นการลวนลามทางวาจา เช่น การขอแอร์โฮสเตสสาว ๆ มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารที่กระทำการคุกคามมีทั้งคนทั่วไป คนใหญ่คนโต นักธุรกิจ รวมทั้งนักการเมือง
"นักการเมืองที่ล่วงละเมิดทางเพศเป็นคนที่คนทั่วไปรู้จัก แต่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ เพราะจะเกิดปัญหากับพนักงาน และบอกไม่ได้ว่าเป็นนักการเมืองในรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่มีการวิจารณ์กันว่านักการเมืองคนนี้เป็นเกย์ จึงไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมาคุกคามทางเพศลูกเรือผู้หญิง จากรายงานของศูนย์ข้อมูลข่าวบริษัทการบินไทย เมื่อเดือน ก.พ. 2546-ต.ค. 2547 ได้รับรายงานจากแอร์โฮสเตส ว่าถูกคุกคามทางเพศ อาทิ ใช้วาจาไม่สุภาพ ถูกเนื้อต้องตัว มีท่าทางผิดปกติ ทั้งหมด 16 ราย มีการแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง 4 ราย แจ้งกัปตัน 10 ราย และแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานกรุงเทพ 6 ราย แต่การแจ้งความส่วนใหญ่ไม่นำไปสู่การดำเนินการอะไรมากนัก" นางชุดาปณี กล่าว
ด้าน น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การดำเนินการกับผู้โดยสารหื่นบนเครื่องบิน สามารถทำได้ หากบริษัทการบินไทยใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชาจริง น่าจะมีการติดตั้งระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินในการเตือนให้ทราบว่ามีการคุกคามทางเพศ เกิดขึ้นบนเครื่องบินบริเวณที่นั่งใด โดยให้พนักงานที่ถูกละเมิดกดสัญญาณไฟส่งสัญญาณ ไปยังกัปตันและพนักงานต้อนรับคนอื่นเข้ามาช่วยได้ เพราะลำพังจะให้พนักงานที่ถูกละเมิดทางเพศเดินไปขอความช่วยเหลือหรือแจ้งกัปตันเองคงลำบาก ซึ่งการติดสัญญาณเตือนค่าใช้จ่ายคงไม่มากเกินไป
"บริษัทการบินไทยต้องช่วยเหลือพนักงาน ไม่ใช่มองเป็นเรื่องเล็กน้อย ร้องเรียนไปแล้วก็เงียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นลูกค้าระดับนายพล ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมืองหรือนักธุรกิจ หากพบการคุกคามทางเพศบนเครื่องบิน การบินไทยควรจัดการกับกลุ่มคนที่มารยาททรามเหล่านี้อย่างจริงจัง เมื่อทราบว่าเป็นใคร ก็ควรต้องกักบริเวณและเชิญตัวไปพบกัปตัน หากมีการตรวจสอบพบว่ามีการละเมิดโดยเจตนาไม่ดี เมื่อเครื่องลงจอดแล้วต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี ไม่ใช่เพียงลงบันทึกประจำวันโดยไม่มีการตำหนิหรือเอาผิด" น.ส.สุเพ็ญศรี กล่าวและว่า การบินไทยควรขึ้นบัญชีดำไว้ โดยก่อนขึ้นเครื่องน่าจะมีการเชิญคนที่เคยก่อปัญหามาอบรมก่อน อย่างไรก็ตามทราบว่านอกจากแอร์โฮสเตสจะถูก ละเมิดทางเพศแล้ว ยังมีสจ๊วตผู้ชายก็ถูกละเมิดทางเพศเช่นกันแต่ไม่มีการให้ข้อมูลเอาไว้.