เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผอ.สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวถึงอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลลอยกระทง "ลอยกระทงสัญญาณอันตราย สารพัดภัยน้ำเมากับการเลือกตั้ง" ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลลอยกระทงจะมีความรุนแรงกว่าปีใหม่หรือสงกรานต์ เพราะนอกเหนือจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ยังมีเรื่องไฟไหม้ และอุบัติเหตุทางน้ำรวมอยู่ด้วย จากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุจราจรใน 76 จังหวัด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติปี 2549 พบว่า เดือนพ.ย.เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากเป็นอันดับ 3 คือ 9,658 ครั้ง มากกว่าเดือนเม.ย.ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอันดับ 1 คือช่วงเทศกาลปีใหม่ เดือนธ.ค.-ม.ค. 11,007 ครั้ง อันดับ 2 เทศกาลสงกรานต์ เดือนเม.ย. 11,993 ครั้ง
ภัยลอยกระทง-เหล้าต้นเหตุตายเจ็บอื้อ
นายพรหมมินทร์กล่าวว่า อุบัติเหตุในเดือนพ.ย.
มีผู้เสียชีวิตถึง 1,122 ศพ บาดเจ็บสาหัส 1,547 คน สาเหตุสำคัญคือ การเดินทางเพื่อไปเที่ยววันลอยกระทง แล้วดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ยังพบว่า มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลวหรือสะเก็ดดอกไม้ไฟในวันลอยกระทงนั้นร้อยละ 30.8 คือผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้บาดเจ็บรุนแรง 400 คน ในปีนี้คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยบางรายถึงกับต้องตัดนิ้วมือ ขณะที่อุบัติภัยจากเพลิงไหม้ก็เกิดขึ้นได้ง่าย ยิ่งในตอนนี้อากาศค่อนข้างแห้ง และมีลมกระโชกแรง นอกจากนี้จังหวัดที่จัดงานลอยกระทงใหญ่ มักจะพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดมากกว่าพื้นที่อื่น เช่น เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย ภูเก็ต กทม. นครปฐม อยุธยา เป็นต้น
ด้านน.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า
ในระยะเวลาใกล้ช่วงเทศกาลพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด ดอกไม้ไฟ ฯลฯ จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เฉพาะที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าพบว่ามีเด็กเข้ารับการรักษาจากการเล่นประทัดทุกวันวันละ 1-2 คน ซึ่งเด็กนำมาเล่นและเหวี่ยงประทัดไม่ทัน ทำให้ได้รับบาดเจ็บกับร่างกาย ซึ่งทุกอวัยวะล้วนสำคัญทั้งสิ้น โดยเฉพาะดวงตาแล้ว ทำให้กระจกตาดำถูกเผา จนถึงขั้นต้องควักดวงตาออกทำให้ตาบอดตลอดไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
"แม้ว่าจะมีกฎห้ามในการจำหน่ายประทัด ดอกไม้ไฟ ฯลฯ แต่ขณะนี้ก็ยังมีการลักลอบการขายประทัดเหล่านี้อยู่ ซึ่งเด็กสามารถหาซื้อได้และนำมาเล่นอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้เกิดการบาดเจ็บ และกว่าจะถึงเทศกาลลอยกระทง เทศกาลปีใหม่ เด็กจะต้องตาบอด นิ้วขาดอีกสักกี่ราย ถ้าการบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มแข็ง ก็ทำให้เกิดความสูญเสียที่ป้องกันได้เช่นนี้ต่อไป" น.พ.ฐาปนวงศ์กล่าว