เมื่อ 17 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าบังกลาเทศเผชิญภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงในรอบ 10 ปี พายุไซโคลนซีดร์พัดกระหน่ำทั่วประเทศว่า
ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งไปถึง 2,000 ศพ และต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย 3.4 ล้านคน ช่วงเย็นวันเสาร์ รัฐบาลบังกลาเทศแถลงว่าพบศพผู้เสียชีวิตเพราะภัยพายุซีดร์แล้ว 915 ศพ แต่คาดว่าในอนาคตตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ เนื่องจากมีพื้นที่ประสบภัยอีกจำนวนมากที่ทางการส่งคนเข้าไปดูแลไม่ถึง และระบบการสื่อสารระหว่างเมืองหลวงกับเมืองอื่นๆ ก็ยังได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวยูไนเต็ดนิวส์ ออฟ บังกลาเทศ ซึ่งมีผู้สื่อข่าวประจำอยู่ในทุกพื้นที่ประสบภัย ระบุว่า
ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 2,000 ศพแล้ว นอกจากนั้น ทั้งกรุงธากาและเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งล้วนไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะโรงไฟฟ้าและระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าเสียหายหนัก ต้องใช้เวลา 3 วันจึงจะซ่อมเสร็จ
ยอดตายภัยบังกลาฯพุ่ง2พัน-มะกันช่วยกู้ภัย!
นายเควิน คอร์ริโว นักอุตุนิยมวิทยาอเมริกัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า
แม้ระดับความรุนแรงของพายุจะลดลง แต่ในอีก 2-3 วันข้างหน้าบังกลาเทศต้องเตรียมรับมือผลกระทบจากพายุซีดร์ให้ดี เพราะน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขาจะส่งผลให้น้ำทะลักล้นออกจากแม่น้ำ นายจอห์น โฮล์มส์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฝ่ายกิจการมนุษยธรรม แถลงว่า ผลพวงจากภัยพายุซีดร์จะส่งผลสะเทือนอย่างมากต่อวิถีชีวิตชาวบังกลาเทศ หลังจากพายุทำให้บ้านเรือนและไร่นาของชาวบ้านเสียหายยับเยิน ล่าสุด ยูเอ็นได้เตรียมระดมหาเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐมาช่วยฟื้นฟู
สำหรับความช่วยเหลือต่างๆ มีรายงานว่า องค์การยูนิเซฟ องค์การแคร์ โครงการอาหารสหประชาชาติ และหน่วยงานกาชาด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประสานงาน
และช่วยทางการบังกลาเทศรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น อาทิ เร่งจัดหาน้ำดื่ม อาหาร และสิ่งบรรเทาทุกข์โดยด่วน ด้านนายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า กองทัพเรือสหรัฐพร้อมทหารนาวิกโยธิน 3,500 นายเข้าไปช่วยรัฐบาลบังกลาเทศดำเนินการกู้ภัยและส่งเรือติดตั้งอุปกรณ์รักษาพยายามไปช่วยด้วยเช่นกัน