สำหรับกระแสเสื้อสีเขียวที่กำลังได้รับความนิยมจากประชาชนไม่แพ้เสื้อสีชมพู
เพราะเชื่อว่าสีเขียวเป็นสีที่ช่วยเสริมพระราชอำนาจและบารมีให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น วันเดียวกันผู้สื่อข่าวสำรวจแผงเสื้อผ้าในตลาดย่านท่าน้ำวังหลัง (ศิริราช) ปรากฏว่ามีแผงขายเสื้อผ้าหลายรายนำเสื้อยืดสีเขียวมาจำหน่ายกันแล้ว โดยตลอดทั้งวันมีลูกค้ามาหาซื้อเป็นจำนวนมาก บางร้านขายดิบขายดีถึงขนาดเสื้อที่สั่งมาขายหลายสิบตัวหมดเกลี้ยง ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่เสื้อสีชมพูยังขายได้ บางร้านขายดีมากถึงวันละ 200 กว่าตัว
ปิดรับจองแล้ว เสื้อฮิต สีชมพู
ขณะที่การขายเสื้อยืดปักภาพฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ของร้านภูฟ้า สาขาสยามดิสคัฟเวอรี่ ในวันที่ 15 พ.ย.
ยังมีประชาชนเดินทางมาหาซื้อเสื้อกันจำนวนมาก โดยในวันนี้ทางร้านได้เปลี่ยนจุดขายจากชั้น 1 ไปเป็นชั้น 5 ของห้าง ซึ่งเสื้อสีชมพูและเสื้อสีเขียวขายดีมากจนไม่มีวางจำหน่าย ขณะที่สีอื่นๆ ขายดีจนบางสีไม่มีไซส์ตามที่ผู้ซื้อต้องการ ส่วนเสื้อชมพูของกระทรวงพาณิชย์นั้น นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรม การค้าภายในเผยวันเดียวกันนี้ว่า ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย จะนำเสื้อสีชมพูประดับตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จำนวน 2,000 ตัว มาจำหน่ายที่ศูนย์อาหารอู่ข้าวอู่น้ำ กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ และอีก 10,000 ตัว กระทรวงจะนำไปจำหน่ายที่เมืองทองธานี ในงานแสดงนิทรรศการ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค.นี้
สำหรับยอดจองเสื้อชมพูของกระทรวงพาณิชย์ 3 วันแรก (วันที่ 13-15 พ.ย.) มียอดจองแล้วกว่า 20,000 ตัว
และจะหยุดเปิดจุดรับจองในวันที่ 16 พ.ย. ขณะนี้มีผู้ผลิต 6 รายรับผลิตเสื้อชมพูให้กระทรวงพาณิชย์รวม 33,000 ตัว ลอตแรกจะจัดส่งมาในวันที่ 19 พ.ย.นี้ 4,500 ตัว และประชาชนจะรับเสื้อได้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.นี้เป็นต้นไป จากการตรวจสอบราคาเสื้อชมพูตามร้านค้าในย่านต่างๆ เช่น พระราชวังสวนจิตรลดา โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลราชวิถี ถนนราชดำเนิน ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ ท่าน้ำนนทบุรี เป็นต้น พบว่าราคาจำหน่ายยังสูงกว่าปกติประมาณตัวละ 50 บาท กระทรวงได้ตักเตือนและชี้แจงว่าไม่ควรฉวยโอกาสเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง