นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซหุงต้ม) เปิดเผยว่า
ขณะนี้สมาชิกของสมาคมฯทั่วประเทศ ได้ร้องเรียนถึงภาระรายจ่ายในการขนส่งก๊าซหุงต้มจากร้านค้าไปให้ผู้ใช้ภาคครัวเรือน เนื่องจากราคาดีเซลได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเกือบลิตรละ 30 บาท ดังนั้น สมาคมฯจะขอติดตามราคาน้ำมันดีเซล ที่หากแตะระดับ 30 บาทต่อลิตร เมื่อใดก็จะเสนอขอให้กระทรวงพลังงานอนุมัติให้ผู้จำหน่ายก๊าซหุงต้ม ขึ้นค่าขนส่งไปยังบ้านเรือนประชาชนอีกถังละ 5 บาท (ถังขนาด 15 กก.) เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลที่ขึ้นราคาทุก 1 บาทต่อลิตร มีผลให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 75 สตางค์ต่อ กก. โดยปัจจุบันค่าขนส่งก๊าซหุงต้มอยู่ที่ระดับ 10-15 บาทต่อถัง ตามระยะทางใกล้ไกลระหว่างร้านค้ากับบ้านพักอาศัยของลูกค้า
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ราคาก๊าซหุงต้ม ในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 720 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
จากปีที่ผ่านมาอยู่ระดับ 500 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ราคาดังกล่าวสะท้อนไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนราคาโดยตรงอยู่ 1-1.29 บาทต่อ กก. และมีการอุดหนุนทางอ้อมผ่านโรงแยกก๊าซธรรมชาติและโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ ที่ถูกกำหนดเพดานราคาให้จำหน่ายได้ไม่เกิน 320 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน หรือเป็นการอุ้มในส่วนนี้อีก 12 บาทต่อ กก.
ดังนั้น นโยบายรัฐบาลยังคงยืนยันที่จำเป็นต้องลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม
ในส่วนที่กองทุนน้ำมันฯอุ้มอยู่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน และป้องกันก๊าซหุงต้มขาดในอีก 2 ปี เนื่องจากก๊าซธรรมชาติอ่าวไทยป้อนการผลิตได้ไม่ทันกับการใช้ในประเทศที่สูงขึ้นต่อเนื่อง การลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มจะไม่ใช้วิธีเดิมที่ปรับราคาเฉพาะผู้ใช้รถยนต์ แต่ไม่ขึ้นราคาในส่วนของภาคครัวเรือน.