โชว์ของดี-ลูบก้น ภัยกามคุกคาม นางฟ้าการบินไทย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2549 19:52 น.

เผยผลวิจัยร้อนฉ่า พบแอร์โฮสเตสการบินไทยถูกคุกคามทางเพศหนัก ทั้งเบาะๆ แค่ขอเบอร์ ลวนลามทางสายตา ไปจนถึงจับก้น ใช้นิ้วกลางจับหรือลูบไล้มือขณะเสิร์ฟอาหาร และหนักข้อถึงขั้นโชว์ของดี ใช้มือเสียบหว่างขา ร้องผู้บริหารเข้ามาแก้ไขด่วน

วันนี้(26 เม.ย.) ที่สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มีการจัดเสวนาผลการศึกษาเรื่อง "ประสบการณ์คุกคามทางเพศจากการทำงาน กรณีศึกษา ลูกเรือของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)" ที่ศึกษาโดยนางชุดาปณี ชิบายาม่า นักศึกษาปริญญาโท โครงการสตรีศึกษา สำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นางชุดาปณีเปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูลโดยสัมภาษณ์เชิงลึกพนักงานแอร์โฮสเตสของบริษัทการบินไทยเมื่อปี 2548 จำนวน 50 คนถึงการถูกคุกคามทางเพศจากการทำงาน สามารถแบ่งได้เป็น 3 พฤติกรรม คือ

หนึ่ง-คุกคามทางวาจา เช่น การพูดจาส่อในเรื่องเพศ ใช้คำพูดหยาบคาย โดยหากเป็นแอร์โฮสเตสที่มีอายุ จะถูกกลูกค้าใช้ถ้อยคำหยาบคาย เช่น อีแอร์แก่ หรือหากเป็นแอร์โฮสเตสสาว จะถูกแทะโลม เช่น ชวนไปกินข้าว ขอหมายเลขโทรศัพท์

สอง-คุกคามโดยแสดงท่าทาง เช่น ทำตาหวาน จ้องมองหน้าอก รูปร่างหน้าตา มีผู้โดยสารชายนำกระดาษมาวาดรูปอวัยวะเพศชายแล้วชี้ให้พนักงานดู หรือการวาดรูปหญิงชายกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน รวมไปถึงการที่ผู้โดยสารชายใช้วิธีรูดซิปกางเกงและโชว์อวัยวะเพศ ซึ่งมักทำกับแอร์โฮสเตสสาวๆ เพราะจะไม่กล้าโวยวาย เพียงแต่ร้องไห้กับหัวหน้างาน กัปตันแล้วก็เงียบ ลักษณะเหมือนพวกโรคจิต

สาม-คุกคามทางร่างกาย เช่น จับมือ ลวนลาม จับบั้นท้าย ใช้นิ้วกลางจับหรือลูบไล้มือแอร์โฮสเตสขณะเสิร์ฟอาหาร เป็นต้น

บางคนโดนลูกค้าชายเอามือเสียบหว่างขา และที่โดนแทบทุกคน คือ การถูกสะกิดก้น เพื่อเรียกใช้บริการทั้งที่ใช้วิธีกดปุ่มเรียกหรือยกมือเรียกก็ได้ ซึ่งหลายคนเคยถูกคุกคามทั้ง 3 รูปแบบโดยลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ซึ่งสถานการณ์คุกคามทางเพศนับวันรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากทำแล้วได้ใจ ไม่ถูกดำเนินการอะไรก็ทำต่อไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเพราะทัศนคติมองผู้หญิงไทยว่าจะทำอะไรก็ได้ และบริษัทการบินไทยไม่มีมาตรการเด็ดขาดในการคุ้มครองช่วยเหลือพนักงานเลย" นางชุดาปณีกล่าว

ทั้งนี้ ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใด คุ้มครองสิทธิผู้หญิงที่ถูกคุกคามทางเพศ มีเพียงกฎหมายคุ้มครองแรงงานไทย มาตรา 16 ที่ระบุโทษเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับนายจ้างลูกจ้างเท่านั้น ไม่ครอบคลุมข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ขณะที่หลายประเทศมีบทลงโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เอาผิดผู้ที่คุกคามทางเพศต่อผู้หญิง อย่างชัดเจน

นางชุดาปณี กล่าวอีกว่า ไม่เฉพาะแต่ลูกเรือเท่านั้น ที่ถูกคุกคามทางเพศ แต่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในทุกอาชีพ ทุกกรณีและทุกสถานที่ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีการลงโทษทางกฎหมายโดยตรงกับผู้ที่กระทำผิด

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามความต้องการของแอร์โฮสเตสที่ต้องการมากที่สุด คือ การขึ้นบัญชีดำผู้โดยสารที่เคยทำผิดบนเครื่อง ซึ่งบริษัทการบินไทยก็มีการเก็บสถิติข้อมูลพนักงานถูกคุกคามทางเพศในปี 2544-47 ไว้ แต่กลับไม่ดำเนินการ นอกจากนั้นขอให้มีการฝึกอบรมการป้องกันแก้ปัญหา ให้ความรู้ด้านกฎหมายกับแอร์โฮสเตส โดยสมาคมลูกเรือการบินไทย และเพิ่มบทลงโทษ ข้อกฎหมายการคุกคามทางเพศในกระบวนการยุติธรรมของไทย


ขณะที่นางสุทธินี เมธีประภา นายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ประเด็นสำคัญ จะต้องสร้างจิตสำนึกของผู้ชายไม่ให้ดูถูกผู้หญิง และต้องสร้างความเข้าใจ ให้สังคม ไม่มองเป็นเรื่องเล็ก หรือมองเป็นเรื่องส่วนตัว ทุกคนต้องช่วยกันประนามผู้กระทำ

ด้านนางกิ่งแก้ว อินหว่าง รองผอ.สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวว่า กำลังรวบรวมข้อมูลการคุกคามทางเพศในที่ทำงานจากทุกแหล่ง ซึ่งนอกจากในกลุ่มพนักงานบริษัทการบินไทยแล้ว ยังมีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มดารานักแสดง กลุ่มแม้ค้า เป็นต้น เพราะผู้หญิงถูกคุกคามทางเพศได้ทุกที่ เพื่อพิจารณาว่าจะมีกระบวนการช่วยเหลือคุ้มครองอย่างไร รวมทั้งการออกมาตรการทางกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ เพราะไม่อยากให้มองการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องเล็กน้อย

ส่วนนางจิตราภา สุนทรพิพิธ ผอ.สำนักงานส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย กล่าวว่า การคุกคามทางเพศพนักงานแอร์โฮสเตสบนเครื่องบิน ส่วนหนึ่งเกิดจากการให้ดื่มเหล้า ดื่มไวน์ ตลอดเวลาจนผู้โดยสารเมาและมาแต๊ะอั๋งพนักงาน และพนักงานแต่งกายชุดไทยรัดรูป หน้าตาสวย หรือแม้แต่ผู้โดยสารบนเครื่องเองก็ยังโดนกระทำซึ่งตนเคยเดินทางและพบลักษณะเช่นนี้ จนต้องเรียกพนักงานมาดูแล ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสายการบินต่างประเทศจะมีการดูแลคุ้มครองดีกว่า ไม่ใช่เอาใจนักท่องเที่ยวหรือลูกค้าทั้งที่กระทำผิด