ยายไฮลุย ชดเชยอืด ทวง4ล้าน

"ยายไฮ ขันจันทา"

ยื่นหนังสือจี้นายกฯเร่งพิจารณาจ่ายเงินชดเชย 4.9 ล้าน ตามมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ที่มหาดไทยแต่งตั้ง วอนนำเรื่องค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้ทำกิน เพราะรัฐเอาที่ไปทำอ่างเก็บน้ำ 27 ปี เข้าสู่ครม.ก่อนหมดวาระ เพราะทุกอย่างเงียบหายไปเป็นปีแล้ว

วันที่ 9 พ.ย. เวลา 11.00 น.
 
ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นางไฮ ขันจันทา อายุ 77 ปี แม่เฒ่านักขุดเขื่อนจาก อ.นาตาล ได้นำลูกหลานรวม 20 คน มายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ครม.พิจารณาสั่งจ่ายเงินชดเชยการเสียโอกาสในที่ดินทำกินจำนวน 4,948,215 บาท ซึ่งรัฐนำไปทำเป็นอ่างเก็บน้ำห้วยละห้าเป็นเวลานานถึง 27 ปี และเงินค่าเสียโอกาสดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทยเป็นเวลากว่า 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ระหว่างที่นางไฮและลูกหลานมายื่นหนังสือ นายชวนไปราชการนอกพื้นที่ จึงมอบให้นายสุริยันต์ กิจสวัสดิ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดมาพูดคุยรับหนังสือ โดยบรรยากาศในช่วงแรกนายสุริยันต์มีปากเสียงกระทบกระทั่งกับลูกนางไฮ เพราะฝ่ายนางไฮพยายามให้นายสุริยันต์กำหนดวันเวลาที่จะได้รับคำตอบกลับจากรัฐบาลหลังยื่นหนังสือให้จังหวัด ซึ่งนายสุริยันต์ระบุว่า ทางจังหวัดไม่สามารถกำหนดได้ แต่ยืนยันว่าจะส่งหนังสือให้รัฐบาลภายใน 1 สัปดาห์ ในที่สุดก็สามารถตกลงกันได้ โดยหลังจากยื่นหนังสือไปแล้วระยะหนึ่ง จะพากันมาทวงถามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

ด้านนางไฮกล่าวว่า

เมื่อเดือนเมษายน พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางมาดูปัญหาที่จังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้รับปากจะเร่งนำเรื่องค่าชดเชยเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อออกเป็นมติสั่งจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ แต่ตัวเองและเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบอีก 2 ราย รอจนถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้มายื่นหนังสือเรียกร้องครม.ให้นำเรื่องการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียโอกาสเข้าพิจารณาในการประชุมครม.ในครั้งหน้าด้วย

นางไฮกล่าวด้วยว่า
 
เรื่องค่าชดเชยที่ทำให้ครอบครัวของยายไฮ นายเสือ พันธุ์คำ และนายฟอง ขันจันทา ได้รับความเดือดร้อนจากการเวนคืนที่ดินไปใช้ทำอ่างเก็บน้ำ พล.อ.สุรยุทธ์ได้ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาหาหน่วยงานมารับผิดชอบ และเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้กรมที่ดินจัดสรรงบประมาณมาชำระให้ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. กรมที่ดินได้รายงานให้ พล.อ.สุรยุทธ์ทราบว่า ได้เสนอให้กรมการปกครองท้องถิ่นเป็นผู้จัดสรรงบประมาณให้ และกรมที่ดินจะได้นำความเห็นดังกล่าว เสนอต่อคณะครม.ในการประชุมครั้งต่อไป

นางไฮกล่าวอีกว่า

ลักษณะที่หน่วยงานโยนกันไปกันมา ทำให้ยายไฮและครอบครัวไม่มั่นใจในที่สุดจะโยนถ่วงเรื่องไปอีกนานเท่าใด จึงมายื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์เร่งรัดนำเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเข้าครม.ให้ทันรัฐบาลนี้ เพราะหากรอไปถึงรัฐบาลหน้าอาจเปลี่ยนแปลงความเห็นใหม่อีก

"ยายสูญเสียรายได้จากการทำกินบนพื้นดินมานานกว่า 27 ปี และจะให้ลูกหลานของยายต้องมารอเงินชดเชยที่รัฐต้องจ่ายให้นานอีกกี่ปี" นางไฮกล่าว

สำหรับนางไฮ ขันจันทา เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศเมื่อปี 2547

เพราะพาลูกหลานในตระกูลขันจันทาใช้ค้อนทุบสันเขื่อนห้วยละห้าเปิดทางให้น้ำไหลออกจากเขื่อน เพื่อให้แผ่นดินที่ใช้ทำนาของนางไฮโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง สาเหตุที่นางไฮตัดสินใจใช้กฎหมู่แทนกฎหมายครั้งนั้น เพราะนางไฮไม่อาจทนต่อการโยกโย้ของหน่วยงานที่ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่จัดหาที่ดินทำกินให้แก่นางไฮ ทั้งที่นางไฮได้ทำเรื่องร้องเรียนตามขั้นตอนมากว่า 20 ปี กระทั่งรัฐบาลสั่งให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินหาที่ดินมาชดเชยแทนที่ดินผืนเก่า แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในเดือนเมษายน 2547 นางไฮจึงตัดสินใจทุบทำลายเขื่อนจนกลายเป็นข่าวโด่งดังและได้ที่ดินทั้งหมดคืนมาดังกล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์